ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, การจัดการตนเอง, ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อ การจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร กลุ่มตัวอย่างจำนวน 293 คน สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ แบบสอบถาม ประกอบด้วยข้อมูล 3 ส่วน ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลลักษณะทางประชากร เศรษฐกิจและสังคม แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และแบบสอบถามการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เครื่องมือในการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลแบบสอบถามโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และการวิเคราะห์ใช้สถิติถดถอยพหุคูณเชิงเส้น ด้วยวิธีการคัดเลือกตัวแบบแบบขั้นตอน กำหนดนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และแบบสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิง ร้อยละ 72.0 มีอายุเฉลี่ย 59.87 ± 10.91 ปี จบระดับประถมศึกษา ร้อยละ 74.1 อาชีพเกษตรกร ร้อยละ 54.9 มีความรอบรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 58.7 มีการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 46.1 ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้แก่ การปฏิบัติพฤติกรรม (p-value < 0.001 , β = 0.513) ความรู้ความเข้าใจ (p-value =0.005 , β = 0.140) และการตัดสินใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติในอนาคตหรือเงื่อนไขการใช้ชีวิต (p-value = 0.043 , β = 0.125) จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความต้องการความรู้การจัดการตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวานอย่างถูกวิธีผ่านการอบรมและสื่อออนไลน์ รวมถึงสามารถในไปใช้ได้จริงอย่างง่ายในชีวิตประจำวัน ผลการศึกษา สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคเรื้อรัง เพื่อสามารถจัดการตนเองให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
References
กรมควบคุมโรค. (2565). ตัวชี้วัดเพื่อกำกับติดตามคุณภาพบริการการดำเนินงานด้านโรคไม่ติดต่อ ประจำปีงบประมาณ 2565. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค.
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2558). โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
จริยา นพเคราะห์, โรจนี จินตนาวัฒน์ และ ทศพร คำผลศิริ. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและการจัดการตนเองในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2. พยาบาลสาร. 47(2), 251-261.
นริศรา แก้วบรรจักร, ประไพจิตร ชุมแวงวาปี และ กฤชกันทร สุวรรณพันธุ์. (2563). ปัจจัยความรอบรู้ทางสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 3(3), 1-15.
ปรางค์ บัวทองคำวิเศษ, ดวงกมล ปิ่นเฉลียว และ สุทธีพร มูลศาสตร์. (2560). ประสิทธิผลของโปรแกรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย. วารสารพยาบาลตำรวจ. 9(1), 106-116.
ไพรฑูรย์ สอนทน. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้สุขภาพกับการควบคุมน้ำตาลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน. วารสารสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. 50(1), 76-88.
ภมร ดรุณ และ ประกันชัย ไกรรัตน์. (2561). ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนจังหวัดบึงกาฬ. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 15(3), 71-82.
สิทธานนท์ แจ่มหอม, ทัศนีย์ ศิลาวรรณ, สุนีย์ ละกำปั่น และ จุฑาธิป ศีลบุตร. (2564). ความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ ในหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารสุขศึกษา, 44(1), 75-86.
สุพาพร เพ็ชรอาวุธ. (2564). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว บัณฑิตวิทยาลัย) มหาวิทยาลัยมหิดล.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร. (2565). รายงานประจำปี. กำแพงเพชร: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร.
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอไทรงาม. (2565). รายงานประจำปี. กำแพงเพชร: สำนักงานสาธารณสุขอำเภอไทรงาม.
Angboonta. (2011). Effects of a Self - management Supporting Programon Self-management Behaviorsand Hemoglobin A1C LevelamongElders with Diabetes Type 2. Nursing Journal. 39(3), 93-104.
Bailey et al. (2014). The Meaning, Antecedents and Outcomes of Employee Engagement: A Narrative Synthesis. International Journal of Management Reviews. 19(1), 31-53.
Daniel. (1995). Biostatistic : A foundations for analysis in the health sciences. New York: John Wiley.
Haas et al. (2014). Identifying classes of conjoint alcohol and marjuana use in entering freshmen. Psychology of Addictive Behaviors. 29(3), 620-626.
International Diabetes Federation. (2017). IDF diabetes atlas 8th Edition. www.idf.org/e-library/epidemiology-research/diabetes-atlas/134-idf-diabetes-atlas-8th-edition.html.
Meyer John P., et al. (2007). Employee Commitment and Support for an Organizational Change : Test of the Three Component Model in Two Cultures”. Journal of Occupational and Organizational Psychology. 80(2), 185.
Nutbeam. (2000). Health literacy as a public health goal: a challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promotion International. 15(3), 259–267.
Wagner E. H, et al.. (2001). Quality improvement in chronic illness care: A collaborative approach. Joint Commission Journal on Quality Improvement. 27(2), 63-80.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.