ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในนักเรียนอาชีวศึกษา ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 จังหวัดตรัง

บทคัดย่อ

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ และวิเคราะห์ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีที่ 2 ในจังหวัดตรัง โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพและพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี จังหวัดตรัง ปี 2565 ซึ่งจัดเก็บโดยกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง กลุ่มตัวอย่างจำนวน 194 คน ได้จากนักเรียนใน 8 วิทยาลัยอาชีวศึกษาในจังหวัดตรัง ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ Chi-square test และ Fisher’s exact test

               ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนร้อยละ 38.1 เคยมีเพศสัมพันธ์ โดยกลุ่มที่มีอายุ 18–24 ปี มีแนวโน้มเคยมีเพศสัมพันธ์มากกว่ากลุ่มอายุน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.045) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.01) ได้แก่ การรับรู้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี การใช้สารเสพติด และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเมื่อจำแนกเป็นรายประเภท พบว่า การใช้กัญชา และการดื่มเหล้าหรือเหล้าปั่น เบียร์ และเหล้าขาว มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านเพศ ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ การออกกำลังกาย สุขภาพจิต และการสนับสนุนทางสังคม ไม่พบความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญ ข้อเสนอแนะจากการศึกษานี้ คือ ควรส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเพศศึกษาแบบบูรณาการร่วมกับการป้องกันการใช้สารเสพติดในสถานศึกษา พร้อมทั้งสร้างระบบติดตามและให้คำปรึกษาเชิงรุกในกลุ่มนักเรียนที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัยในกลุ่มเยาวชนอาชีวศึกษาอย่างยั่งยืน