ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีส ของประชาชนในพื้นที่ ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้แต่ง

  • ละเมียด เราะหะวิลัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านชายทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำสำคัญ:

ปัจจัยที่สัมพันธ์ , พฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส, ประชาชนตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional study) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิสของประชาชนในพื้นที่ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยประชาชนอายุระหว่าง 20–59 ปี ทั้งเพศชายและเพศหญิง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบอาชีพหรือทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือโคลน มีจำนวนทั้งสิ้น 214 คน โดยกลุ่มประชากรนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเลปโตสไปโรซิส การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย เพื่ออธิบายลักษณะข้อมูลเบื้องต้นของกลุ่มตัวอย่าง และใช้สถิติไคสแควร์ (Chi-square) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ และเจตคติกับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส

            ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับความรู้เกี่ยวกับโรคเลปโตสไปโรซิสอยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 58.9 ในขณะที่ระดับเจตคติต่อการป้องกันโรคอยู่ในระดับมากถึงร้อยละ 82.7 และระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 53.8 แสดงให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่มีการรับรู้และให้ความสำคัญต่อการป้องกันโรคในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ปัจจัยอายุของผู้ตอบแบบสอบถามมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = 0.000) ซึ่งอาจสื่อได้ว่ากลุ่มอายุที่ต่างกันอาจมีความตระหนักหรือพฤติกรรมที่แตกต่างกันในการป้องกันโรคดังกล่าว ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ เพศ ศาสนา สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพหลัก รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รวมถึงระดับความรู้และเจตคติ กลับไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส ดังนั้น ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่ประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มอายุที่มีพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดอุบัติการณ์ของโรคเลปโตสไปโรซิสในพื้นที่ต่อไป

เอกสารอ้างอิง

จุฑารัตน์ จิตติมณี & จารุวรรณ วงศ์บุตรดี. (2562). การป้องกันและควบคุมโรคเลปโตสไปโรซีสในคนและการเฝ้าระวังโรคเลปโตสไปโรซีสที่ก่อโรคในหนูและแหล่งน้ำผิวดินที่พบในหมู่บ้าน.

กระทรวงสาธารณสุข. (2565). Health Data Center (HDC). สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2568, จาก https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php

ณัฐวุฒิ แท่นศิลา. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์พฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคเลปโตสไปโรซีสของประชาชนตำบลหนองฮาง อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 2(1), 1–12.

ธนวัฒน์ สุวัฒนกุล. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 12(3), 515–522.

กรมควบคุมโรค. (2561). การพยากรณ์การเกิดโรคเลปโตสไปโรซีสตามฤดูกาล โดยศึกษาปัจจัยทางสภาพอากาศสำหรับประเทศไทย ปี พ.ศ. 2553–2561. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 30(5), 802–813.

พรพิทักษ์ พันธ์หล้า & วิมวิการ์ ศักดิ์ชัยนานนท์. (2564). แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเลปโตสไปโรซีสโดยใช้หลักการทางระบาดวิทยาและการทำประชาสังคมในชุมชน. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2568, จาก [ระบุ URL ที่ต้องการให้ครบถ้วน]

วิชัย เอกพลากร. (2564). รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562–2563. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.

อนุลักษ์ แก้วคูนอก. (2567). การศึกษาพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสของประชากรกลุ่มเสี่ยง. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 3(2), 80–92.

อภิชาติ ขันตี. (2567). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองฮี อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม. วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 4(1), 18–28.

อภิเดช ชีวะประเสริฐ & มะลิวัลย์ ชีวะประเสริฐ. (2567). ความรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสของผู้ประกอบอาชีพในตลาด อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2568, จาก https://sko.moph.go.th/research/content/view/?id=59

ฤชุอร จอมทอง, วันชัย สีหะวงษ์, & ทศพงษ์ บุระมาน. (2563). การศึกษาการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อโรคฉี่หนู ความพึงพอใจข้อมูลข่าวสาร และพฤติกรรมการป้องกันตนเองต่อโรคฉี่หนูของผู้ป่วยโรคฉี่หนูในพื้นที่เสี่ยง อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรค, 18(1), 61–72.

Best, J. W. (1977). Research in education (3rd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.

Bloom, B. S. (1968). Learning for mastery. Evaluation Comment, 1(2). In All our children learning. New York: McGraw-Hill.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-02

รูปแบบการอ้างอิง

ละเมียด เราะหะวิลัย. (2025). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีส ของประชาชนในพื้นที่ ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิชาการเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิและสาธารณสุข, 3(2), 347–358. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHSD/article/view/4605

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research artricle