ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลเด็กโรคหืดของผู้ดูแล โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

ผู้แต่ง

  • มนัสวี นิลพัฒน์ โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

คำสำคัญ:

โรคหืด, พฤติกรรมการดูแล, ผู้ดูแล

บทคัดย่อ

            การวิจัยเชิงพยากรณ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับโรคหืด การรับรู้ตามองค์ประกอบของ Health Belief Model (HBM) ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคหืด และปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลในโรงพยาบาลชะอำ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ดูแลหลักของผู้ป่วยเด็กโรคหืด จำนวน 173 ราย ใช้การสุ่มแบบง่ายโดยวิธีจับสลาก เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

            ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (79.77%) อายุ 51-60 ปี (41.62%) มีความรู้เกี่ยวกับโรคหืดระดับปานกลาง (70.52%) การรับรู้โอกาสเสี่ยง ความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน และความเชื่อมั่นในตนเองในระดับสูง ส่วนการรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคอยู่ในระดับปานกลาง ผู้ดูแลส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการดูแลในระดับเหมาะสม (94.22%) ความรู้เกี่ยวกับโรคหืด การรับรู้โอกาสเสี่ยง และความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับโรคหืดและการรับรู้โอกาสเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน สามารถอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 31.6 (p < .05) การเสริมสร้างความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับโรคหืดจึงเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาพฤติกรรมการดูแลที่เหมาะสม

เอกสารอ้างอิง

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2562. นนทบุรี: กลุ่มดิจิทัลสุขภาพ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข.

จักรกฤษณ์ วังราษฎร์, สุวินัย แสงโย และกัญญาณัฐ อุ่มมี. (2561). อุปสรรคในการดำเนินพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพ ชีวิต, 6(2), 351–361.

ชยุตรา ด่านลี และสุพัฒนา ศักดิษฐานนท์. (2565). ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลแบบมีปฏิสัมพันธ์ต่อการรับรู้ สมรรถนะแห่งตน พฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลและการควบคุมโรคในผู้ป่วยเด็กโรคหืดอายุ 3–5 ปี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 32(2), 145–158.

ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์. (2556). การกำหนดขนาดตัวอย่างสำหรับการวิจัยเชิงพรรณนาในงานสาธารณสุข. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ, 16(2), 9–18.

พัชรี วัฒนชัย, พัชราภรณ์ อารีย์ และสุธิศา ล่ามช้าง. (2559). ความรุนแรงของโรคหืด พฤติกรรมการจัดการของ ครอบครัวและการควบคุมอาการของโรคหืดในเด็กของผู้ดูแลในครอบครัว. พยาบาลสาร, 43(2), 1–12.

เพ็ญจิต มหาสโร, นันทวัน สุวรรณรูป และนันทิยา วัฒายุ. (2560). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลเด็กโรค หืดอายุ 1–6 ปี. วารสารพยาบาลศาสตร์, 35(2), 64–73.

โรงพยาบาลชะอำ. (2024). ผลการดำเนินงานการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปี 2565– 2567 (เอกสารอัดสำเนา).

สมศักดิ์ อินทมาต, ดาวประกาย หญ้างาม, วริศรา รักษาภักดี และสุจิตรา พงศ์วงประเสริฐ. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยโรคหืดเด็กของผู้ดูแล. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 8(3), 53–59.

สิริกรานต์ สุทธิสมพร, สุธิศา ล่ามช้าง และอุษณีย์ จินตะเวช. (2563). ปัจจัยทำนายการจัดการครอบครัวในผู้ดูแลเด็ก โรคหืด. พยาบาลสาร, 47(4), 27–38.

สุชาดา มานะสถิตย์, จุฑารัตน์ มีสุขโข, และอุษณีย์ จินตะเวช. (2565). ผลของโปรแกรมการสอนแบบกลุ่มต่อความรู้ และพฤติกรรมของบิดามารดาในการป้องกันอาการจับหืดในเด็ก. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 49(3), 299–310.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

นิลพัฒน์ ม. . (2025). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลเด็กโรคหืดของผู้ดูแล โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิชาการเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิและสาธารณสุข, 3(2), 473–483. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHSD/article/view/4789

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research artricle