ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทางทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงาน ชุมชนมุสลิมท่าม่วง เขตเทศบาลตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
การเข้ารับบริการทันตกรรม, กลุ่มวัยทำงาน, ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, ชุมชนมุสลิมท่าม่วงบทคัดย่อ
การวิจัยแบบภาคตัดขวาง (Cross Sectional Study) เป็นการศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทางทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานชุมชนมุสลิมท่าม่วง เขตเทศบาลตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการใช้บริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานชุมชนมุสลิมท่าม่วง ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการรับรู้และปัจจัยร่วมที่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานชุมชนมุสลิมท่าม่วง ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยร่วมกับการเข้ารับบริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานชุมชนมุสลิมท่าม่วง ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ จำนวน 293 คน โดยใช้สถิติไคสแควร์ (Chi-square Test)
จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่เข้ารับบริการทันตกรรม ร้อยละ 70.99 เหตุผลส่วนใหญ่ที่ไม่ไปรับบริการทันตกรรม คือ ไม่มีอาการ คิดเป็นร้อยละ 54.11 มีการรับรู้อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 41.64 มีระดับความรู้ อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 36.68 มีทัศนคติและประสบการณ์เกี่ยวกับการป้องกันโรคและการเข้ารับบริการทันตกรรมอยู่ระดับสูง ร้อยละ 45.73 และมีสิ่งชักนำให้เกิดการปฏิบัติอยู่ในระดับสูงมาก ร้อยละ 99.66 เมื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ พบว่า ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน และระยะเวลาในการทำงาน (วัน/สัปดาห์, ชั่วโมง/วัน) ความรู้เกี่ยวกับโรคในช่องปากมีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทันตกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = 0.001, 0.004, 0.002, 0.005, 0.040 ตามลำดับ) ส่วน เพศ อายุ การมีโรคประจำตัว สิทธิการรักษาพยาบาล การรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรคของการดูแลสุขภาพในช่องปาก ทัศนคติ และประสบการณ์เกี่ยวกับการป้องกันโรค และสิ่งชักนำให้เกิดการปฏิบัติ ไม่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานชุมชนมุสลิมท่าม่วง เขตเทศบาลตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = 0.007, 0.741, 0.434, 0.190, 0.217, 0.860, 0.632 ตามลำดับ)
เอกสารอ้างอิง
กนกอร โพธิ์ศรี และเกรียงศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการมารับบริการทางทันตกรรมของผู้สูงอายุ 60-74 ปี ใน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารทันตาภิบาล. สืบค้นเมื่อ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564, จากhttp://www.lib.dent.chula.ac.th/upload/2013/ tjdex/ 3854/6_73.pdf.
กรรณิกา เรืองเดช ชาวสวนศรีเจริญ. (2560). วิจัยเบื้องต้น สำหรับวิทยาศาสตร์สุขภาพ. ตรัง : วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง.
จิระพร ยอดท่าหว้า. 2553. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัยจังหวัดชัยภูมิ. (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น. คณะสาธารณสุขศาสตร์. สาขาบริหารงานสาธารณสุข.
จินตนา รัตนะ. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเข้ารับบริการทันตกรรมในช่วงอายุครรภ์ 4-6 เดือน ของหญิงตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลหลังสวน จังหวัดชุมพร. (วิทยานิพนธ์ทันตแพทย์ศาสตร์บัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. คณะทันตแพทยศาสตร์
ชูชัย ศุภวงศ์ และคณะ. (2552). คู่มือการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. กรุงเทพมหานคร: ทีคิว พีจำกัด.
ธิดา รัตนวิไลศักดิ์. (2554). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้บริการทันตกรรมของผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์. (วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. คณะสาธารณสุขศาสตร์. สาขาวิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ.
ธีระชัย อนุวงศ์เจริญ. (2559). ปริทัศน์ทันตสุขภาพตามวิถีอิสลามสุขภาพช่อง VS สุขภาพร่างกาย. บทวิทยาการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา.
นาริม โต๊ะกานี. (2555). ความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตกับสภาวะสุขภาพช่องปากของเด็กนักเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส. (วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. คณะทันตแพทย์ศาสตร์. หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพช่องปาก.
นิรัชรา ลิลละฮ์ และคณะ. (2561). วิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้กับ พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพตามหลัก 6 อ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(2), 302-310.
ฝ่ายทันตกรรม โรงพยาบาลขนอม. (2563). อัตราการเข้ารับบริการทางทันตกรรม กลุ่มอายุ 15-59 ปี เขตสุขภาพที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช. โรงพยาบาลอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช.
“ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยบุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา”. องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นหรือสภากาชาดไทยมอบหมายให้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134. ตอนที่ 65. หน้า 3-4.
โรสลิน สาและ. (2551). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของชาวประมงพื้นบ้าน ตำบลปะนาแระ อำเภอปะนาแระ จังหวัดปัตตานี. (ปัญหาพิเศษทางสาธารรสุข ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (สาธารณสุขชุมชน). วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา.
วิไลลักษณ์ ทิวากรกฎ. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสภาวะสุขภาพช่องปากวัยทำงาน. อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารแพทย์, 36(4), 237-238.
เสฏฐวุฒิ แซ่หลี. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเข้ารับบริการทันตกรรมของประชาชนในพื้นที่เกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง. (โครงการวิจัยเพื่อพัฒนางานสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก ปริญญาสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (ทันตสาธารณสุข). วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง.
สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย. (2555). การสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก ประตู…สู่สุขภาพที่ดีในช่วงวัยของชีวิต. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
. (2561). รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ. ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564,จากhttp://dental2.anamai.moph.go.th/ewt_dl_link.php?nid=2423.
อับดุลเลาะ ตาเละ. (2553). คุณภาพชีวิตของชาวประมงในพื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี. (ปัญหาพิเศษทางสาธารณสุข ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (สาธารณสุขชุมชน). วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา.
Becker & Maiman. (1974). อ้างถึงใน ธนารัตน์ จันดามี. 2551. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษา โดยการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อพฤติกรรมการป้องป้องกันการสูบบุหรี่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น. คณะสาธารณสุขศาสตร์. สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.