ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพด้วยสบช.โมเดลในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน จังหวัดปราจีนบุรี

ผู้แต่ง

  • ธนาทิพย์ วิจิตรอมรพงษ์ นักศึกษา สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
  • ณัชชา เรืองอร่าม นักศึกษา สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
  • ชญานุตม์ ทองทวี นักศึกษา สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
  • พนัชกร สุระเทพ นักศึกษา สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
  • พัชรี ประทุมแย้ม อาจารย์ สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สถาบันร่วมผลิตคณะการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร มหาวิทยาลัยบูรพา กับวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

สบช.โมเดล, ความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, พฤติกรรมสุขภาพ

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงสำรวจเพื่อศึกษาผลของการนำแนวคิดหลัก 3 อ. (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) และ 3 ลด (ลดเหล้า ลดบุหรี่ ลดอ้วน) มาใช้ร่วมกับ สบช.โมเดล ในผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยโรคเบาหวาน  ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี มีการคำนวณกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตร Krejcie&Morgan จึงได้ประชากรที่ต้องการศึกษา จำนวน 67 คน จากทั้งหมด 173 คน โดยมีการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล มีการใช้สถิติ Multiple Regression Analysis ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นและตัวแปรอิสระ มีการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

ก่อนเข้าร่วมโครงการคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 15.49 และหลังเข้าร่วมโครงการคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 18.36 ของกลุ่มตัวอย่างเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพในทางที่ดีขึ้น ส่วนคะแนนเฉลี่ยการประเมินสภาวะทางอารมณ์ ก่อนเข้าร่วมโครงการคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.63 และหลังเข้าร่วมโครงการคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.15 คะแนนของกลุ่มตัวอย่างลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001

ดังนั้นหลัก สบช.โมเดล สามารถนำไปปรับใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและผู้ป่วยโรคเบาหวานได้

เอกสารอ้างอิง

กิติพงษ์ เรือนเพ็ชร, สุภิศา ขำเอนก, อภิสรากรณ์ หิรัณย์วิชญกุล, สุวรัตน์ ธีระสุต และศิริลักษณ์ สุวรรณวงษ์. (2547). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3 อ. 2 ส. ของนิสิพยาบาล มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์. สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2568 จาก https://shorturl.at/dipSW

ณัฐพร สุขพอดี. (2550). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเบาหวาน,21-22,83-87. สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2568 จาก https://aihd.mahidol.ac.th/resourcecenter/wp-content/uploads/2022/05/ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเบาหวาน ศูนย์จัดการความรู้ผู้ป่วย

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. (2564). กลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โรคที่เกิดจากพฤติกรรม.สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.bumrungrad.com/th/health

วริศรา ปันทองหลาง. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้. จาก https://he02.tcithaijo.org/index.php/nurpsu/article/download/163941/118750/455241

สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการรักษาความดันโลหิตสูง,1-25.ทริค ธิงค์ สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2568 จาก http://www.thaihypertension.org/files/442.HT%20guideline%202019.with%20watermark.pdf อติพร สำราญบัว และเบญจมาศ ทำเจริญตระกูล. (2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อขั้นตอนการเปลี่ยนพฤติกรรมออกกำลังกายของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2568 จาก https://he02.tcithaijo.org/index.php/Jolbcnm/ article/view/39771/32860

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-07-26

รูปแบบการอ้างอิง

วิจิตรอมรพงษ์ ธ., เรืองอร่าม ณ. ., ทองทวี ช., สุระเทพ พ., & ประทุมแย้ม พ. (2025). ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพด้วยสบช.โมเดลในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน จังหวัดปราจีนบุรี. วารสารวิจัยนวัตกรรมและหลักฐานเชิงประจักษ์ทางสุขภาพ, 4(1), 34–39. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/PBRI/article/view/3514

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย