ผลการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวของนักฟุตซอลชาย โรงเรียนบ้านตระแสง จังหวัดสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวของนักฟุตซอลชาย โรงเรียนบ้านตระแสง จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักกีฬาฟุตซอลชาย โรงเรียนบ้านตระแสง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 12 คน อายุระหว่าง 10-12 ปี แบ่งออกเป็นกลุ่มควบคุม 6 คน และกลุ่มทดลอง6 คน ด้วยวิธีการแบ่งแบบแมชชิ่งกรุ๊ป โดยกลุ่มควบคุมฝึกซ้อมด้วยโปรแกรมฝึกซ้อมกีฬาฟุตซอลตามปกติ ส่วนกลุ่มทดลองฝึกซ้อมด้วยโปรแกรมการฝึกแบบผสมผสานควบคู่กับโปรแกรมฝึกซ้อมกีฬาฟุตซอล เป็นเวลา 6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน คือวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ช่วงเวลา 16.30 – 18.30 น. ทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวแบบวัดซ้ำ เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ เมื่อพบความแตกต่างจะใช้การวิเคราะห์เป็นรายคู่ด้วยวิธีของตูกี และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม โดยการทดสอบค่า “ที” กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการวิจัยพบว่า หลังการฝึกโปรแกรมแบบผสมผสาน 6 สัปดาห์ กลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง มีผลการทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ในกลุ่มทดลอง พบว่า หลังการฝึกโปรแกรมแบบผสมผสาน 6 สัปดาห์ มีผลการทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวดีขึ้นมากกว่าก่อนการฝึก อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ถือเป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและนวัตกรรมสุขภาพ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย ก่อนเท่านั้น