ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคเรื้อรัง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต

ผู้แต่ง

  • สุทัสษา ล้านทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต

คำสำคัญ:

ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, พฤติกรรมการดูแลตนเอง, โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

บทคัดย่อ

          การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคเรื้อรังของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดภูเก็ต รวมถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องและตัวแปรทำนายพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างคือ อสม. จำนวน 370 คน ซึ่งคัดเลือกด้วยวิธีการสุ่มอย่างมีระบบ โดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนาจากกรอบทฤษฎีและผ่านการตรวจสอบคุณภาพ  วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ไคสแควร์ สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

         ผลการวิจัยพบว่า อสม. ส่วนใหญ่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพในระดับดี โดยเฉพาะด้านการจัดการตนเองและการตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ด้านการสื่อสารสุขภาพยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนพฤติกรรมการดูแลตนเองอยู่ในระดับดีถึงดีมาก (ร้อยละ 58.92) ปัจจัยที่สัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) กับความรอบรู้ด้านสุขภาพ ได้แก่ ระดับการศึกษาและการสนับสนุนทางสังคม ขณะที่ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเอง ได้แก่ อายุ ระยะเวลาในการเป็น อสม. การสนับสนุนทางสังคม ความรู้ความเข้าใจทางสุขภาพ การจัดการตนเอง การรู้เท่าทันสื่อ และการตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง (แต่ รอบเอวและดัชนีมวลกายมีความสัมพันธ์เชิงลบ) ตัวแปรทำนายพฤติกรรมการดูแลตนเองอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การจัดการตนเอง การตัดสินใจเลือกปฏิบัติที่ถูกต้อง การสื่อสารสุขภาพ และรอบเอว ซึ่งร่วมกันอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 27.20 ดังนั้นหน่วยงานด้านสาธารณสุขควรพัฒนาศักยภาพของ อสม. อย่างเป็นระบบ โดยเน้นการเสริมสร้างทักษะด้านการจัดการตนเอง การตัดสินใจเชิงสุขภาพ และการสื่อสารสุขภาพที่เหมาะสมกับบริบท เพื่อส่งเสริมให้ อสม. เป็นต้นแบบสุขภาพที่ดีและมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเรื้อรังของประชาชนในชุมชน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข. (2562). แนวทาง 3อ. ในการส่งเสริมสุขภาพ. กรมอนามัย.

กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย (พ.ศ. 2566–2570). กรมควบคุมโรค. เข้าถึงเมื่อ 19 มีนาคม 2568 จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1625920241004031950.pdf

กฤศภณ เทพอินทร์ และเสน่ห์ ขุนแก้ว. (2565). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 14(1), 206–218.

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2563). แนวทางการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในบริบทประเทศไทย. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ.

งานสุขภาพภาคประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต. (2568). การสำรวจสถานะสุขภาพของอสม.ในแอพพลิเคชั่นสมาร์ท อสม. ประจำปีงบประมาณ 2568.

จุฑาภรณ์ สว่างเมฆ. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้นแบบ จังหวัดกระบี่. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน , 16(3), 49–58.

ธวัช วิเชียรประภา, พรนภา หอมสินธุ์, รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์. (2555). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดจันทบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 7(2), 53–68.

พัดชา คุณวุฒิ. (2566). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). วารสารวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม มสธ, 3(2), 94–106.

โสภณ นุชเจริญ. (2566). ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอชะอำ, กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข.

อุไรรัตน์ คูหะมณี, ยุวดี รอดจากภัย, & นิภา มหารัชพงศ์. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพกับบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการป้องกันโรคเรื้อรัง. วารสารกรมการแพทย์, 45(1), 137–142.

Berkman, L. F., & Glass, T. (2000). Social integration, social networks, social support, and health. In L. F. Berkman & I. Kawachi (Eds.), Social epidemiology (pp. 137–173). Oxford University Press.

Bloom, B. S. (Ed.), Engelhart, M. D., Furst, E. J., Hill, W. H., & Krathwohl, D. R. (1956). Taxonomy of educational objectives: Handbook I: The cognitive domain. David McKay Co.

Cohen, S., & Wills, T. A. (1985). Stress, social support, and the buffering hypothesis. Psychological Bulletin, 98(2), 310–357. https://doi.org/10.1037/0033-2909.98.2.310

House, J. S. (1981). Work stress and social support. Addison-Wesley.

Nutbeam, D. (2000). Health literacy as a public health goal: A challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promotion International, 15(3), 259–267. https://doi.org/10.1093/heapro/15.3.259

Pender, N. J., Murdaugh, C. L., & Parsons, M. A. (2006). Health promotion in nursing practice (5th ed.). Pearson Education, Inc.

Pender, N. J., Murdaugh, C. L., & Parsons, M. A. (2015). Health promotion in nursing practice (7th ed.). Pearson Education.

Sørensen, K., Van den Broucke, S., Fullam, J., Doyle, G., Pelikan, J., Slonska, Z., & Brand, H. (2012). Health literacy and public health: A systematic review and integration of definitions and models. BMC Public Health, 12(1), 80. https://doi.org/10.1186/1471-2458-12-80

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

ล้านทอง ส. . (2025). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคเรื้อรัง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดภูเก็ต. วารสารวิชาการเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิและสาธารณสุข, 3(2), 457–472. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/AJHSD/article/view/4772

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research artricle