ผลการศึกษาของกระบวนการ Home Ward ต่อการเปลี่ยนแปลงค่า HbA1c ในผู้ป่วยเบาหวาน โรงพยาบาลพนา จังหวัดอำนาจเจริญ
คำสำคัญ:
การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน, ค่าน้ำตาลเฉลี่ย, เบาหวานบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของกระบวนการ Home Ward ต่อการเปลี่ยนแปลงค่า HbA1c ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ย้อนหลังแบบกลุ่มเดียวที่มีการเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลอง โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากเวชระเบียนของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้าร่วมกระบวนการ Home Ward ในโรงพยาบาลพนา จังหวัดอำนาจเจริญ ระหว่างกุมภาพันธ์-กันยายน 2567 จำนวน 64 ราย ใช้แบบบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เก็บข้อมูลจากระบบ HOS XP รวบรวมข้อมูลค่า HbA1c ก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรม 3-4 เดือน ข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วย และกิจกรรม Home Ward วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Paired t-test, McNemar-Bowker test และ Multiple Logistic Regression
ผลการศึกษาพบว่า ค่าเฉลี่ย HbA1c ลดลงจากร้อยละ 11.93 เป็น 9.77 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) คิดเป็นการลดลงร้อยละ 2.16 ผู้ป่วยร้อยละ 90.6 มี HbA1c ดีขึ้น สัดส่วนผู้ป่วยที่บรรลุเป้าหมายการควบคุมที่ยอมรับได้ (HbA1c ≤8%) เพิ่มขึ้น 4.8 เท่า จากร้อยละ 4.7 เป็นร้อยละ 23.4 ผู้ป่วยร้อยละ 73.4 มีการตอบสนองดีต่อการรักษา (การลดลงของ HbA1c ≥1.0%) ปัจจัยพยากรณ์ที่สำคัญ ได้แก่ ค่า HbA1c เริ่มต้น โดยผู้ป่วยที่มี HbA1c เริ่มต้น 10-12.9% และ ≥13% มีโอกาสตอบสนองดีมากกว่าผู้ป่วยที่มี HbA1c น้อยกว่าร้อยละ 10 ถึง 4.33 เท่า (p<0.05) และระยะเวลาการเป็นโรคเบาหวาน โดยผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมา 11-14 ปีมีโอกาสตอบสนองดีน้อยกว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมา 2-5 ปี (OR=0.17, p=0.040) กระบวนการ Home Ward มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีการควบคุมไม่ดีในเริ่มต้น การลดลงของ HbA1c ร้อยละ 2.16 เกินกว่าเกณฑ์ความหมายทางคลินิก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโปรแกรมในการลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน ผลการศึกษาสนับสนุนการนำกระบวนการ Home Ward มาใช้เป็นรูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในระดับปฐมภูมิ โดยควรให้ความสำคัญกับผู้ป่วยที่มี HbA1c สูงและระยะเวลาการเป็นโรคน้อยกว่า 10 ปี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
เอกสารอ้างอิง
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2565). แนวทางและมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยในที่บ้าน (Home ward). กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.
จรุงธนะกิจ, น. (2564). ผลระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รับบริการตามแนวทางการให้บริการผู้ป่วยสถานการณ์พิเศษ (โควิด-19) โรงพยาบาลไทรงาม. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 15(36), 129–142.
จีระศักดิ์ กวียานนท์. (2566). การประเมินผลการจัดระบบบริการแบบ Home ward ในการดูแลผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อโควิด 19 อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 8(2), 33–42.
จุฬาลักษณ์ สินธุเขต. (2566). ผลของการเยี่ยมบ้านต่อระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ตำบลดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ปี 2566. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 16(3), 45–58.
ถมญาณี โชติการณ์, ธีรศักดิ์ ภูจอมแจ, & วิภาวี เหล่าจตุรพิศ. (2567). การพัฒนารูปแบบระบบการบริการแบบดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้าน (Home Ward) โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายบริการสุขภาพในชุมชน จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 9(4), 654–664.
ทวีเกียรติ ตั้งวงค์ไชย, & สกลสุภา สิงคิบุตร. (2567). การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและการดูแลแบบผู้ป่วยในที่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้ามพร้า จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 30(2), 168–188.
นงนุช วารีย์. (2563). ผลของโปรแกรมการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานรายใหม่ที่มีต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ และระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c). วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ, 2(1), 29–36.
ปิยณัฐ ค้ามีผล. (2566). การพัฒนาศูนย์การดูแลต่อเนื่องผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เครือข่ายอำเภอชุมแพ. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 8(3), 290–302.
วลัยรัตน์ สุวรรณหมัด, & บุบผา รักษานาม. (2568). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงที่บ้าน (Home Ward) เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดตรัง. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, e275068, 1–15.
Abbas, W. (2025). Mobile-driven incentive-based exercise for blood glucose control in type 2 diabetes [Master’s thesis, Kangwon National University]. Kangwon National University.
Boonsub Sakboonyarat, Jadsada Kunpeuk, Saowanee Sangkool, et al. (2021). National trends in the prevalence of glycemic control among patients with type 2 diabetes receiving continuous care in Thailand from 2011 to 2018. Scientific Reports, 11, 14260. https://doi.org/10.1038/s41598-021-93733-4
Casten, R., Rovner, B., Chang, A. M., Hollander, J. E., Kelley, M., Leiby, B., Nightingale, G., Pizzi, L., White, N., & Rising, K. (2020). A randomized clinical trial of a collaborative home-based diabetes intervention to reduce emergency department visits and hospitalizations in black individuals with diabetes. Contemporary Clinical Trials, 96, 106069. https://doi.org/10.1016/j.cct.2020.106069
Gerber, B. S., Cho, Y. I., Jeong, I., Sharma, L., Cotsonis, G. A., Walter, N., & Duru, O. K. (2023). Effect of a community-based telehealth diabetes care intervention on glycemic control in vulnerable populations: A randomized clinical trial. JAMA Network Open, 6(9), e2330974. https://doi.org/10.1001/jamanetworkopen.2023.30974
Goh, L. G., Tan, N. C., Malhotra, R., Ozdemir, S., Latib, A., & Matchar, D. B. (2022). Effectiveness of a home-based integrated care package for community-dwelling older adults with diabetes: A randomized controlled trial. Trials, 23, 608. https://doi.org/10.1186/s13063-021-05744-1
Han, L., Ma, Y., Wei, S., Tian, J., Yang, X., Shen, X., Zhang, J., & Shi, Y. (2017). Are home visits an effective method for diabetes management? A quantitative systematic review and meta-analysis. Journal of Diabetes Investigation, 8(7), 701–708.
LaMonica, L. C., Ren, J., Jain, N., Goldberg, E. S., Rhee, K. B., Wickner, P., & Chaguturu, S. K. (2024). At-Home Hemoglobin A1c Testing During COVID-19 Improved Glycemic Control. The American Journal of Managed Care, 30(3), e73–e77.
Pang, T. Y. Y., Lam, C. L. K., Wong, C.-W., Fung, K.-C., Woo, J., Chan, S. S. C., & Wong, C. K. H. (2019). Effect of a home-based multidisciplinary intervention program on glycemic control and quality of life in older adults with diabetes: A randomized controlled trial. Translational Metabolic Syndrome Research, 2, 35–42. https://doi.org/10.1016/j.tmj.2019.0035
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.