ปัจจัยที่มีผลต่อระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ : กรณีศึกษาชุมชนบ้านม่าหนิก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

ผู้แต่ง

  • การันตร์ โกมุทผล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านม่าหนิก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

คำสำคัญ:

การมีส่วนร่วมของชุมชน,, การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง: การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในจังหวัดภูเก็ตนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้สูงอายุ ทำให้พื้นที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ปัจจัยนี้ส่งผลให้เกิดความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งพบว่ามีอัตราการป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจสูงขึ้น การสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุจึงเป็นแนวทางสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและลดภาระของระบบสาธารณสุข การมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นหัวใจสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เนื่องจากช่วยให้เกิดการดูแลต่อเนื่องและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนยังคงอยู่ในระดับปานกลางและยังขาดการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์การวิจัย: (1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุในชุมชนบ้านม่าหนิก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต (2) เพื่อเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล แรงสนับสนุนทางสังคม และทัศนคติของบุคลากรด้านสุขภาพ (3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไปในชุมชนบ้านม่าหนิก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 233 คน คัดเลือกโดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multiple Random Sampling) ข้อมูลถูกรวบรวมผ่านแบบสอบถามซึ่งครอบคลุม 6 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป การสนับสนุนทางสังคม ทัศนคติต่อบุคลากรด้านสุขภาพ การมีส่วนร่วมของชุมชน ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Independent sample t-test, One-way ANOVA และการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ (LSD test)

ผลการวิจัย: ผลการศึกษาพบว่าประชาชนในชุมชนบ้านม่าหนิกมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.82) โดยมีการมีส่วนร่วมสูงสุดในด้าน การวางแผน (ค่าเฉลี่ย = 2.88) รองลงมาคือ การค้นหาปัญหา (ค่าเฉลี่ย = 2.87) และ การดำเนินการ (ค่าเฉลี่ย = 2.86) ส่วนการมีส่วนร่วมใน การประเมินผล อยู่ในระดับต่ำที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 2.68) ผลการวิเคราะห์ยังพบว่าประชาชนที่มีอาชีพ สถานภาพสมรส และแรงสนับสนุนทางสังคมที่แตกต่างกัน มีระดับการมีส่วนร่วมที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p < 0.05 นอกจากนี้ ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของชุมชน ได้แก่ ภาระจากการประกอบอาชีพ การดูแลครอบครัว และการขาดการกระจายงานจากผู้นำชุมชน

สรุปผล: ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนบ้านม่าหนิกยังอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีการมีส่วนร่วมในด้าน การวางแผน สูงที่สุด ขณะที่ การประเมินผลยังคงเป็นจุดอ่อนที่ต้องได้รับการพัฒนา ปัจจัยที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ได้แก่ แรงสนับสนุนทางสังคมและทัศนคติของบุคลากรด้านสุขภาพ ในขณะที่อุปสรรคหลักคือ ภาระทางเศรษฐกิจและภาระในครอบครัว การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในระยะยาวควรคำนึงถึงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ การเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของชุมชน และการกระตุ้นให้เกิดความเป็นเจ้าของในการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ

เอกสารอ้างอิง

กณิกนันต์ หยกสกุล. 2551. “การมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในการจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการส่งเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

กมลา สาครมณีทรัพย์. 2545. “ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนในการส่งเสริมสุขภาพ กรณีศึกษา: ชุมชนหลังวัดลานบุญ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมสงเคราะห์ศาสตรบัณฑิต, สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

กรกช ณ ลำพูน. 2549. “ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการให้บริการของสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาอำเภอแม่สาย.” วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมศาสตรบัณฑิต, สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

กรรณิกา เรืองเดช ชาวสวนศรีเจริญ. 2557. วิจัยเบื้องต้นสำหรับวิทยาศาสตร์สุขภาพ: Fundamental Research for Health Science. พิมพ์ครั้งที่ 1. ตรัง: วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดตรัง.

โกวิทย์ พวงงาม. 2545. อ้างถึงใน ณรงค์ กุลนิเทศ. 2555. “การมีส่วนร่วมที่แท้จริงของประชาชน จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

จีระศักดิ์ เจริญพันธ์. 2553. การจัดการสาธารณสุขในชุมชน: คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.

ฉวีวรรณ อยู่สำราญ และคนอื่นๆ. 2550. การสนับสนุนทางสังคม ความรู้และความสามารถในการดูแลตนเองของสตรีตั้งครรภ์ที่มีการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด. วารสารสภาการพยาบาล, 22(1), 60-71

ชนัญธวีร์ ฐิตวัฒนานนท์. 2552. “การพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการวางแผนกิจกรรม ส่งเสริมสุขภาพโดยใช้กระบวนการ AIC: กรณีศึกษาชุมชนในตำบลหนองไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา.” วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ธาริน สุขอนันต์ และคนอื่นๆ. 2554. คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัด ชลบุรี. วารสารสาธารณสุขศาสตร วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดชลบุรี. 41(3), 240-24 นเรศ สงเคราะห์สุข. 2541. อ้างถึงใน ปาริชาติ วลัยเสถียร. 2554. กระบวนการและเทคนิคการทำงานของนักพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ม.ป.ท.

ไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์. 2531. อ้างถึงใน ทรงศักดิ์ มีชัย. 2554. “กระบวนการมีส่วนร่วมในชมรมผู้สูงอายุบ้านป่าขาม อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน.” วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

มรกต หน่อศักดิ์. 2552. “การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมผู้สูงอายุ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่.” การค้นคว้าแบบอิสระปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพยาบาลชุมชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ปิยนุช สมสมัย, 2553. “การมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างพื้นที่สาธารณะ: กรณีศึกษาชุมชนโฟรโมสต์ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร.” วิทยานิพนธ์ปริญญาภูมิสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต, สาขาภูมิสถาปัตยกรรม. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ปรีชา ณ พัทลุง. 2545. อ้างถึงใน ภาคภูมิ ทัตตินาพานิช. 2547. “ทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อการรับบริการของรถไฟแห่งประเทศไทย.” วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารศาสตรบัณฑิต, สาขาวิทยาการจัดการ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

อาภาพร เผ่าวัฒนา และคนอื่นๆ. 2554. การสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคในชุมชน: การประยุกต์แนวคิด และทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

อิศเรศ อาบู. 2549. “พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุในตำบลกะมิยอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี.” ปัญหาพิเศษทางสาธารณสุขปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต, สาขาสาธารณสุขชุมชน วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา.

Aderson, C. B. 2003. อ้างถึงใน ณรงค์ศักดิ์ หนูสอน. 2553. ต้นแบบด้านการส่งเสริมสุขภาพโดยทีมสุขภาพภาคประชาชน. วารสารการพยาบาลและสุขภาพมหาวิทยาลัยนเรศวร. 2(3), 6-7.

American Public Health Association. 1983. อ้างถึงใน ธีรพงษ์ แก้วหาวงษ์. 2543. “การส่งเสริมสุขภาพตามปัญหาของชุมชนผู้สูงอายุ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

Best, J. W. 2006. อ้างถึงใน ศันสนีย์ วงค์ม่วย. 2556. แรงจูงใจที่มีผลต่อสมรรถนะประจํากลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 1(2), 1-2.

Brown, D. L. 1986. อ้างถึงใน ฉวีวรรณ อยู่สำราญ และคนอื่นๆ. 2550. การสนับสนุนทางสังคม ความรู้ และความสามารถในการดูแลตนเองของสตรีตั้งครรภ์ที่มีการเจ็บคลอดก่อนกำหนด. วารสารสภาการพยาบาล. 22(1), 68-69.

Cobb, S. 1976. อ้างถึงใน ฉวีวรรณ อยู่สำราญ และคนอื่นๆ. 2550. การสนับสนุนทางสังคม ความรู้ และความสามารถในการดูแลตนเองของสตรีตั้งครรภ์ที่มีการเจ็บคลอดก่อนกำหนด. วารสารสภาการพยาบาล. 22(1), 61.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

31-12-2022

รูปแบบการอ้างอิง

โกมุทผล ก. . (2022). ปัจจัยที่มีผลต่อระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ : กรณีศึกษาชุมชนบ้านม่าหนิก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต, 2(3), 51–60. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/VCHPK/article/view/4022

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย