การส่งบทความ

วารสารนี้ยังไม่เปิดรับบทความ ในช่วงเวลานี้

รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • บทความเรื่องนี้ยังไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หากมีกรุณาอธิบายในข้อความถึงบรรณาธิการ)
  • บทความเตรียมในรูปแบบของไฟล์ Microsoft Word
  • มีการให้ URLs ที่เข้าถึงได้ สำหรับเอกสารที่อ้างอิงจากอินเทอร์เน็ต
  • บทความพิมพ์แบบใช้ระยะห่างบรรทัดปกติ (single-spaced) ขนาดฟ้อนท์ตัวอักษร 16pt(ในภาษาไทย) และ 12 pt(ในภาษาอังกฤษ) ใช้ตัวเอนแทนการขีดเส้นใต้สำหรับสังกัดผู้แต่ง (ยกเว้น ที่อยู่ URL) และ ระบุข้อมูล รูปวาด รูปภาพ และตาราง ในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นตามข้อกำหนดของวารสาร
  • บทความเตรียมตามข้อกำหนด ทั้งในด้านของรูปแบบและการเขียนเอกสารอ้างอิง ตามคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง (Author Guidelines)

คำแนะนำผู้แต่ง

นโยบายการลอกเลียนแบบ
วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต ซึ่งมีระบบ CopyCatch สำหรับตรวจสอบการลอกเลียนแบบ ต้นฉบับทั้งหมดที่ส่งมาเพื่อตีพิมพ์จะได้รับการตรวจสอบการลอกเลียนแบบภายใน 24 ชั่วโมง หากบรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการ ผู้ตรวจสอบ ฯลฯ ตรวจพบการลอกเลียนแบบในขั้นตอนใดๆ ของบทความ ก่อนหรือหลังกระบวนการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิและการยอมรับ ในกรณีนั้น เราจะแจ้งให้ผู้เขียนทราบและขอให้เขียนเนื้อหาในบทความใหม่หรืออ้างอิงแหล่งที่มาของเนื้อหาที่คัดลอกมา หากเนื้อหามีการลอกเลียนแบบมากกว่า 15% บทความอาจถูกเสนอให้เขียนใหม่หรือปฏิเสธ และจะแจ้งให้ผู้เขียนทราบ

หลักเกณฑ์และคำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับ

วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต เป็นวารสารวิชาการที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์วารสารวิชาการระดับชาติ จัดพิมพ์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจ ได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ตลอดจนเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นทางวิชาการ บทความที่จะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต จะต้องไม่เคยถูกนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารอื่นใดมาก่อน และไม่ได้อยู่ในระหว่างการพิจารณาลงวารสารใด ๆ พร้อมทั้งได้รับการพิจารณาจากผู้ประเมินอิสระ (Peer Reviewers) ก่อน เพื่อให้วารสารมีคุณภาพในระดับสากล และนำไปอ้างอิงได้ การเตรียมต้นฉบับที่จะมาลงตีพิมพ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้


ขอบเขตการรับตีพิมพ์บทความ

วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต เป็นวารสารสาขาวิทยาศาสตร์และสาธารณสุขครอบคลุมวิทยาการ ดังนี้ วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ การพยาบาล วิทยาศาสตร์ประยุกต์ พฤติกรรมสุขภาพ อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมพิษวิทยาสาธารณสุขชุมชนทันตสาธารณสุขเภสัชสาธารณสุขและสังคมศาสตร์ทางการแพทย์


นโยบายการการประเมินบทความ

บทความวิจัยและบทความทุกประเภทที่ตีพิมพ์ใน วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต จะได้รับพิจารณากลุ่นกรองจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวข้อง กระบวนการกลุ่นกรองจะใช้แบบปกปิดสองทางโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่ประเมินบทความอย่างน้อยสองในสามคน การเลือกผู้ทรงคุณวุฒิมีความสำคัญต่อกระบวนการตีพิมพ์ซึ่งจะพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงความเชี่ยวชาญ ชื่อเสียง คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง ผลประโยชน์ทับซ้อน และผลงานที่ผ่านมา ความรวดเร็ว ความละเอียดถี่ถ้วน การใช้ดุลพินิจผลอย่างมีเหตุผล และความเป็นกัลยาณมิตร กระบวนการประเมินจะไม่ควรมีการติดต่อกันโดยตรงระหว่างผู้เขียนและผู้ประเมินบทความซึ่งบรรณาธิการจะเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร


กระบวนการประเมินบทความ (Peer Review Process)

กระบวนการพิจารณาบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1.การตรวจสอบบทความเบื้องต้นโดยกองบรรณาธิการ (1 สัปดาห์):

บทความที่ถูกส่งเข้ามาจะได้รับการตรวจสอบความสมบูรณ์โดยกองบรรณาธิการ ดังนี้

  • รูปแบบการจัดหน้า
  • การใช้ภาษา
  • การคัดลอกเลียนแบบ (ไม่เกินร้อยละ 15)
  • ความเพียงพอและความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการอ้างอิง
  • รูปแบบการเขียนอ้างอิง
  • ความซ้ำซ้อน

หากบทความดังกล่าวมีรูปแบบไม่เป็นไปตามที่วารสารฯ กำหนด หรือมีอัตราการซ้ำซ้อนสูงกว่าที่วารสารฯ กำหนด กองบรรณาธิการจะไม่รับบทความดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาซึ่งจะแจ้งผู้ประพันธ์ให้รับทราบต่อไป

2.การพิจารณาความถูกต้อง-เหมาะสม โดยผู้ทรงคุณวุฒิ (1-2 สัปดาห์): 

บทความที่ผ่านการพิจารณาขั้นที่ 1 แล้ว กองบรรณาธิการจะพิจารณาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 ถึง 3 คน เพื่อพิจารณาบทความดังกล่าวในรูปแบบ Double-Blind ก่อนดำเนินการทาบทาม และจัดส่งบทความแก่ผู้ทรงคุณวุฒิต่อไป โดยระดับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิจะประกอบด้วย

2.1 สมควรได้รับการตีพิมพ์ (Accept)

2.2 สมควรได้รับการตีพิมพ์ โดยต้องมีการปรับแก้ไขเล็กน้อย (Accept with minor revision)

2.3 สมควรได้รับการตีพิมพ์ โดยต้องมีการปรับแก้ไขอย่างมาก (Accept with major revision)

2.4ไม่สมควรได้รับการตีพิมพ์ (Reject)

3.การพิจารณาผลการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (1 สัปดาห์):

เมื่อกองบรรณาธิการได้รับผลการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการพิจารณาและสรุปผลอีกครั้ง โดยบทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ ต้องได้รับผลเป็น Accept หรือ Accept with minor revision ส่วนบทความที่ได้รับผลเป็น Accept with major revision บรรณาธิการจะเป็นผู้พิจารณาชี้ขาด และบทความที่ได้รับผลเป็น Reject จะไม่ได้รับการอนุมัติให้ตีพิมพ์ใน วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต

4.การปรับแก้(1-3 สัปดาห์):

บทความที่ได้รับการอนุมัติให้ตีพิมพ์ กองบรรณาธิการจะแจ้งให้ผู้เขียนดำเนินการปรับแก้ตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิ และความคิดเห็นเพิ่มเติมจากกองบรรณาธิการ (ถ้ามี) โดยผู้เขียนต้องดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วน และชี้แจงการปรับแก้ แล้วส่งบทความที่ปรับแก้แล้ว และเอกสารชี้แจงการปรับแก้กลับมายังกองบรรณาธิการภายในเวลาที่กำหนด

5.การพิจารณาบทความฉบับปรับแก้ (1 สัปดาห์):

เมื่อกองบรรณาธิการได้รับบทความที่ปรับแก้แล้ว จะดำเนินการพิจารณาความถูกต้องอีกครั้ง หากบทความดังกล่าวได้รับการแก้ไขครบถ้วน จะรับรองการตีพิมพ์ และนำเข้าสู่กระบวนการจัดอาร์ตเวิร์คต่อไป

 

การเตรียมต้นฉบับ

1. ภาษา เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ การใช้ภาษาไทยให้ยึดหลักการใช้คำศัพท์และชื่อบัญญัติตามหลักของ ราชบัณฑิตยสถาน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษในข้อความ ยกเว้นกรณีจำเป็นให้เขียนคำศัพท์ภาษาไทยตามด้วยวงเล็บ ภาษาอังกฤษ ให้ใช้ตัวเล็กทั้งหมดยกเว้นชื่อเฉพาะต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรใหญ่บทความส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษควรให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะส่งต้นฉบับ

2. การพิมพ์ ให้จัดพิมพ์ด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด (Word) ผู้เสนอผลงานจะต้องพิมพ์และส่งต้นฉบับในรูปแบบ ของแฟ้มข้อมูลเป็น “.doc” หรือ “.docx” (MS Word) เท่านั้น รูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK โดยจัดหน้ากระดาษขนาด B5 (18.2 ซ.ม. x 7 ซ.ม.) ตั้งค่าหน้ากระดาษสำหรับการพิมพ์ห่างจากขอบกระดาษทุกด้านด้านละ 1 นิ้ว (2.5 เซนติเมตร) จัดหนึ่งคอลัมน์สำหรับทุกบทความ

3. จำนวนหน้า บทความวิชาการ บทความปริทัศน์ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือ ไม่ควรเกิน 15 หน้า

การเรียงลำดับเนื้อหา

1.ชื่อเรื่อง (Title) ควรสั้น กะทัดรัด และสื่อเป้าหมายหลัก ไม่ใช้คำย่อ ชื่อเรื่องต้องมีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ     

2.ผู้ประพันธ์ (Author) ให้มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุหน่วยงานหรือสถาบันสังกัด และ E-mail address ของผู้นิพนธ์ เพื่อกองบรรณาธิการใช้ติดต่อเกี่ยวกับต้นฉบับและบทความที่ตีพิมพ์หากมีผู้ประพันธ์หลายคนก็ต้อง ระบุข้อมูลของผู้ประพันธ์ทุกคน

3.บทคัดย่อ (Abstract) ให้มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นเนื้อความย่อที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เป็นใจความสำคัญของทั้งบทความโดยเรียงลำดับความสำคัญของเนื้อหา ดังนี้ บทนำ วัตถุประสงค์ เนื้อหา อย่างต่อเนื่องกัน ไม่ควรเกิน 15 บรรทัด หรือ ความยาวไม่เกิน 250 คำ และ ไม่ควรใช้คำย่อที่ไม่เป็นสากล

4. คำสำคัญ (keywords) ให้ระบุทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ใส่ไว้ท้ายบทคัดย่อของแต่ละภาษา ไม่เกิน 5 คำ

5. บทนำ (Introduction) เป็นส่วนของเนื้อหาที่บอกความเป็นมา ความสำคัญ ประเด็นโต้แย้งทางวิชาการ เหตุผลนำไปสู่การนำเสนอ วัตถุประสงค์ของการนำเสนอบทความวิชาการ เป็นต้น

6.เนื้อหา (Content) เป็นใจความสำคัญของบทความโดยอาจแบ่งเป็นหลายหัวข้อก็ได้

7. บทสรุป (Conclusion) เป็นส่วนสรุปทั้งบทความโดยอาจรวมไปถึงทิ้งประเด็นต่อยอดการศึกษาในครั้งต่อไป

8. เอกสารอ้างอิง (Reference) สำหรับการพิมพ์เอกสารอ้างอิงมีหลักการทั่วไป คือ เอกสารอ้างอิงต้องเป็นที่ถูกตีพิมพ์และได้รับการยอมรับทางวิชาการ วารสารใช้การเขียนรายการอ้างอิงตามรูปแบบแวนคูเวอร์ (Vancouver Style)

9. ชื่อตาราง ชื่อแผนภูมิ ชื่อแผนภาพ ชื่อรูปภาพ หรือชื่อวัตถุอื่น ให้เขียนชื่อเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ (English) 

 

นโยบายส่วนบุคคล

ชื่อและที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลส่วนบุคคล ที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในงานวารสารเท่านั้นและจะไม่เปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ในกิจกรรมอื่น ๆ หรือให้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดทราบ