ประสิทธิภาพการบริหารการเงินโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ปีงบประมาณ 2560 – 2564

ผู้แต่ง

  • ปรีดา สุดขาว นักวิชาการการเงินชำนาญการ โรงพยาบาลวิชระภูเก็ต

คำสำคัญ:

ประสิทธิภาพการบริหารการเงิน,, โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง: การบริหารการเงินในโรงพยาบาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการและความมั่นคงของระบบสาธารณสุข โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดภูเก็ต ต้องบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยและบริหารต้นทุนให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีงบประมาณ 2560-2564 โรงพยาบาลเผชิญกับปัญหาทางการเงินหลายประการ เช่น ขาดสภาพคล่อง การเรียกเก็บลูกหนี้ค่ารักษาที่ล่าช้า และต้นทุนการรักษาสูง ทำให้จำเป็นต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ประสิทธิภาพทางการเงินของโรงพยาบาล เพื่อนำผลลัพธ์ไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารจัดการการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วัตถุประสงค์การวิจัย: (1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการบริหารการเงินของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในช่วงปีงบประมาณ 2560-2564 (2) เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตกับมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (3) เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารการเงินของโรงพยาบาลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) โดยใช้ การทบทวนข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective Review) ในรายงานการเงินของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นระยะเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560-2564) ข้อมูลที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์ ได้แก่ งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน ข้อมูลต้นทุนค่ารักษาพยาบาล และอัตราส่วนทางการเงิน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Microsoft Excel, SSB, Hosxp และ Express โดยพิจารณาตัวชี้วัด 7 ประการ ได้แก่ อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio), อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick Ratio), อัตราส่วนเงินสดต่อหนี้สินหมุนเวียน (Cash Ratio), ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเก็บลูกหนี้ค่ารักษา (Average Collection Period), ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการชำระเจ้าหนี้การค้า (Average Payment Period), อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และต้นทุนต่อหน่วยของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน

ผลการวิจัย: ผลการศึกษาพบว่า (1) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงิน โดยอัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) ตลอดช่วงปี 2560-2564 ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และมีแนวโน้มลดลงในช่วงปี 2560-2563 ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2564 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick Ratio) พบว่ามีแนวโน้มลดลงและต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในปี 2562-2563 ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาการชำระหนี้สินหมุนเวียนของโรงพยาบาล นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินสดต่อหนี้สินหมุนเวียน (Cash Ratio) มีแนวโน้มลดลงระหว่างปี 2560-2562 และปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2563-2564 แต่ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (2) ด้านการจัดเก็บรายได้ พบว่า ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเก็บลูกหนี้ค่ารักษาพยาบาลสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แสดงให้เห็นว่าการเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีหนี้ค้างชำระสะสมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการชำระเจ้าหนี้การค้า (Average Payment Period) มีแนวโน้มสูงขึ้นและสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาความล่าช้าในการบริหารจัดการภาระหนี้สินของโรงพยาบาล (3) สำหรับอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) พบว่า มีแนวโน้มลดลงระหว่างปี 2560-2563 และปรับตัวดีขึ้นในปี 2564 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่ายา และเวชภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 โรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินสนับสนุนของรัฐบาลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น (4) ในส่วนของต้นทุนการรักษา พบว่า ต้นทุนผู้ป่วยนอก (OPD) เฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 1,009.97 บาทต่อ visit ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ในปี 2563-2564 ต้นทุน OPD สูงกว่ามาตรฐานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้มีการแจกจ่ายยาให้ผู้ป่วยล่วงหน้าเพื่อลดจำนวนการมาโรงพยาบาล ขณะที่ ต้นทุนผู้ป่วยใน (IPD) อยู่ในช่วง 20,554.20 - 25,753.46 บาทต่อราย ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้ที่ 14,409.07 บาท

สรุปผล: ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตยังขาดประสิทธิภาพในการบริหารการเงินในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาด้าน สภาพคล่องทางการเงิน การบริหารหนี้สิน และต้นทุนการรักษาผู้ป่วยในที่สูงกว่ามาตรฐาน แม้ว่าการบริหารรายได้และต้นทุนจะมีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2564 แต่ยังคงต้องมีการพัฒนาแนวทางในการบริหารการเงินอย่างเป็นระบบ ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ได้แก่ (1) การพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการลูกหนี้ค่ารักษาพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (2) การควบคุมต้นทุนด้านเวชภัณฑ์และการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า (3) การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการบริหารรายรับและรายจ่ายเพื่อลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของโรงพยาบาล

References

De Savigny D, Adam T. Systems thinking for health systems strengthening. World Health Organization; 2009.

พิทักษ์พล บุณยมาลิก. แนวโน้มการบริหารการเงินของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข: การศึกษาเชิงคุณภาพ. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข . 2564 ; 15(4)

อุดมศรี วงศ์บุญยกุล. ประสิทธิภาพการบริการการเงิน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตปี 2553-2557. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11. 2558 ;29 (3)

ชุมพล นุชผ่อง, สมอาจ วงษ์ขมทอง, จันทร์จิรา วงศ์ขมทองและเนตรชนก ศรีทุมมา. กลยุทธ์การเงินของผู้บริหารการเงินการคลังของโรงพยาบาลชุมชน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิทยาลัยพยาบาลอุตรดิตถ์2560 ; 9 (1)

Downloads

เผยแพร่แล้ว

31-12-2022

How to Cite

สุดขาว ป. . (2022). ประสิทธิภาพการบริหารการเงินโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ปีงบประมาณ 2560 – 2564. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต, 2(3), 83–94. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/VCHPK/article/view/4024