การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

Main Article Content

เชาวฤทธิ์ บุญลี, ส.บ.

บทคัดย่อ

วัณโรค เป็นโรคติดเชื้อที่ที่มีความสำคัญ ส่วนใหญ่มักเกิดพยาธิสภาพที่ปอด แพร่กระจายได้
ในอากาศผ่านการไอ จาม หรือพูด ผู้ที่สูดอากาศที่ปนเปื้อนวัณโรคเข้าไปมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้
การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้จึงมีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีเครื่องมือวิจัย
คือ แบบสอบถามสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรค วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติ
เชิงอนุมาน ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา


ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา ประกอบด้วย 1) การประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม 2) อบรมการดูแลผู้ป่วยวัณโรคให้แก่ ญาติผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วย และ อสม. 3) การดูแลผู้ป่วยวัณโรคโดยญาติผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วย และ อสม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพ.สต. 4) การกำกับการกินยาผู้ป่วยวัณโรคโดยญาติผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วย 5) การสื่อสารระหว่างญาติผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ผ่านระบบออนไลน์ทุกวัน 6) ประเมิน
ค่าคะแนนความรู้ พฤติกรรม และทัศนคติในการดูแลผู้ป่วยวัณโรค 7) ถอดบทเรียน สรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข 8) คืนข้อมูลสู่ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ผลการวิจัย ผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรค จำนวน 62 คน มีคะแนนความรู้เรื่องวัณโรคเพิ่มขึ้น
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) คะแนนพฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา เพิ่มขึ้น
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) ทัศนคติการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) ทัศนคติการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(p-value < 0.001) การมีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001)  ปัจจัยแห่งความสำเร็จ การพัฒนาศักยภาพญาติผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรค โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นผู้ติดตามกำกับ
การกินยาและสอบถามอาการผู้ป่วยผ่านญาติผู้อาศัยร่วมบ้านทุกวัน

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2561).สธ.เดินหน้ายุทธศาสตร์ทศวรรษการกําจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีระยะที่ 2. สืบค้นจาก

https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/all/04/11279 9/

คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

World Health Organization. (1989). Guidelines for the safe use of wastewater and excreta in agriculture and aquaculture Measures for public health protection. Geneva, WHO.

Bloom, B. S. (1968). Leaming for Mastery, Instruction and Curriculum. Regional Education Laboratory for the Carolinas and Virginia, Topical Papers and Reprints, Number 1. Evaluation comment, 1(2), n2.

World Health Organization. (2023a). Global tuberculosis report 2023.

World Health Organization. (2023b). Global tuberculosis report 2023 fact sheet.

World Health Organization. (2023c, 07/11/2023), Tuberculosis fact sheet. Retrieved 20103/2024 from

https:/www.who.int/news-room/fact-sheets/ detail/ tuberculosis

กรมควบคุมโรค, ก. (2567). สถานการณ์และการดำเนินงานวัณโรคของประเทศไทย.