การพัฒนาแนวทางการสั่งตรวจวิเคราะห์์ทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างสมเหตุผลของโรงพยาบาลลำทับ จังหวัดกระบี่

Main Article Content

วัฒนา แก้วแย้ม, ปร.ด.

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยชิงปฏิบัติการประกอบด้วยการวางแผน การปฏิบัติการ การสังเกตการณ์ และการสะท้อนกลับ วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทาง และผลการดำเนินงานตามเกณฑ์การพัฒนาโรงพยาบาลที่มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างสมเหตุผล โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณในกลุ่มตัวอย่างคือข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับการสั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ปี 2566-2567 และวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสนทนากลุ่มร่วมกับทีมนำด้านคลินิกของโรงพยาบาลลำทับ


            ผลการวิจัย (1) แนวทางการสั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างสมเหตุผลของโรงพยาบาลลำทับ ได้แก่กลุ่มตรวจสุขภาพประจำปี กลุ่มโรคติดเชื้อ และกลุ่มโรคเบาหวาน (2) ภายหลังการใช้แนวทางปี 2567 พบว่า ตัวชี้วัดที่ 1 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานได้รับการตรวจ Hb A1C ซ้ำภายใน 90 วัน ได้ร้อยละ 1.56 ตัวชี้วัดที่ 2 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานได้รับการตรวจ Hb A1C อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ร้อยละ 70.62 ตามลำดับ และตัวชี้วัดที่ 3 โรงพยาบาลมีการดำเนินงานตามเกณฑ์การพัฒนาโรงพยาบาลที่มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างสมเหตุผล และสามารถลดรายจ่ายการสั่งตรวจระดับไขมันในเลือดและการทำงานของไตในกลุ่มตรวจสุขภาพประจำปีของบุคลากรปี 2567 จำนวน 13,358 บาท (ร้อยละ 52.84) และมูลค่ารายรับจากการสั่งตรวจ HbA1C ของกลุ่มโรคเบาหวานที่ครบตามเกณฑ์จำนวน 110,700 บาท (ร้อยละ 39.64)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
แก้วแย้ม, ปร.ด. ว. (2025). การพัฒนาแนวทางการสั่งตรวจวิเคราะห์์ทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างสมเหตุผลของโรงพยาบาลลำทับ จังหวัดกระบี่. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 4(1), p. 42–56. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/SJRH/article/view/3873
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรกนกพร กระจางแสง และประสพชัย พสุนนท. (2561). แนวทางการวิจัยเชิงผสานวิธีแบบคู่ขนานในงานวิจัยทางการจัดการ. Journal of Humanities and Social Sciences Thonburi University, 13(1), January - April.

กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง อัตราค่าบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2562. (6, ตุลาคม 2567) https://phdb.moph.go.th/

main/index/detail/30381

กัญจนา ติษยาธิคม วลัยพร พัชรนฤมล และวิโรจน์ตั้งเจริญเสถียร.(2544). คู่มือการวิเคราะห์ต้นทุน โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานนโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ.

กุศลาสัย สุุราอามาตย์์. (2567). ศึกษาเรื่องการพัฒนา

รููปแบบการตรวจวิเคราะห์์ทางห้องปฏิบัติิการ

อย่างสมเหตุุผล โรงพยาบาลจตุรพักตรพิิมาน

จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิิจััยและพััฒนานวััต

กรรมทางสุุขภาพ. 5(3), กัันยายน – ธัันวาคม.

กองยุทธศาสตร์และแผน กระทรวงสาธารณสุข. (2567)

รายละเอียดตัวชี้วัดกระทรวงสาธารณสุข

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568. ม.ม.พ.

ชุติมา งูพิมาย, เพชรน้อย สิงห์ช่างชัย และนฤมล ปทุมารักษ์. (2564). การวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมการจัดการบริการพยาบาลผู้ป่วยเด็ก โรคระบบทางเดินหายใจ แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก. 32(2), กรกฎาคม – ธันวาคม.

ตุลาพร อินทนิเวศน์. (2567). การพัฒนาระบบการตรวจทางหองปฏิบัติการ อย่างสมเหตุผลตามแนวทาง RLU ของโรงพยาบาลลำพูน. วารสารกรมวิทยาศาสตรการแพทย์, 66(3), กรกฎาคม - กันยายน.

นวลอนงค์ บุญฤทธิ์พงศ์. (2556). ระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา. จุดทอง.

นฤตย์ คุ้มยา (2562) การพัฒนาต้นแบบระบบบันทึกข้อมูลการวิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วยการบริการทางการแพทย์โรงพยาบาล.มหาวิทยาลัยบูรพาบูรพาเวชสาร. 6(2), กรกฎาคม – ธันวาคม.

วีระยุทธ ชาตะกาญจน์. (2553). การวิจัยเชิงปฏิบัติการ Action Research. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 29(1), มกราคม - มิถุนายน 2553.

วิไลวรรณ ศรีราชา, รัตนาภรณ์ ยศศรี, บุศรา สาขา และปวีณา กมลรักษ์. (2565). ศึกษาเรื่องการประเมินต้นทุนต่อหน่วยการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการของกลุ่มห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านควบคุมโรคสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 29(3), กันยายน - ธันวาคม.

สำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตรการ

แพทย กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แนว

ทางการตรวจทางหองปฏิบัติการทางการ

แพทยอย่างสมเหตุผล (Rational

Laboratory Use, RLU). ม.ม.พ.

Kanwar G, Rathore S, Khandelwal A, Khandelwal D, Khandelwal A, Meena R, et al. (2022). A study of “rational use of investigations” in a tertiary hospital. Asian J Med Sci 13(10): 121-25

Kemmis, S & McTagart, R. (1988). The Action Research Planer. (3rd ed.). Victoria : Deakin University.