การบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตกในโรงพยาบาลศรีสะเกษ

Main Article Content

ณิศรา ประสารศิวมัย, พ.บ.

บทคัดย่อ

         การศึกษาข้อมูลย้อนหลังเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงอุบัติการณ์ของการบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตก (Open globe injuries) ในโรงพยาบาลศรีสะเกษ รวมถึงลักษณะทางคลินิก สาเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาข้อมูลย้อนหลังระยะเวลา 5 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลจากข้อมูลเวชระเบียนแบบอิเลคทรอนิกส์ของผู้ป่วยที่คัดเลือกประชากรตามเกณฑ์การคัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่างทุกราย จำนวน 165 ราย ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่ามีการบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตกในโรงพยาบาลศรีสะเกษ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2565 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวนและร้อยละ


          ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยจำนวน 165 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (82.4%) อายุเฉลี่ย 41 ปี โดยกลุ่มอาชีพที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดคือ เกษตรกร (40.6%) รองลงมาคือ แรงงานรับจ้าง (33.9%) สาเหตุหลักของการบาดเจ็บคือ อุบัติเหตุจากการทำงาน (59.4%) ซึ่งพบว่ามีเพียง 1% ของผู้ป่วยที่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันขณะทำงาน ชนิดของการแตกของลูกตาที่พบมากที่สุดคือ Rupture globe (49.1%) ระดับการมองเห็นแรกรับพบว่า 12.1% ของผู้ป่วยไม่สามารถมองเห็นแสงไฟ (No PL) และเพิ่มขึ้นเป็น 24.3% หลังการรักษา 6 เดือน


           สรุปผลการศึกษา การบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตกมีแนวโน้มสูงในกลุ่มแรงงาน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตา ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร จึงควรมีมาตรการส่งเสริมการใช้เครื่องป้องกันตาและรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานเพื่อลดอุบัติการณ์ของการบาดเจ็บที่ตาในอนาคต

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ประสารศิวมัย, พ.บ. ณ. (2025). การบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตกในโรงพยาบาลศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 4(1), p. 196–206. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/SJRH/article/view/4030
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กันตินันท์ มหาสุวีระชัย. (2560). อุบัติเหตุทางตาในโรงพยาบาลมุกดาหาร. ศรีนครินทร์เวชสาร, 32, 17-23.

ณัฐชัย วงษ์ไชยคุณากร, & อนุชิต กิจธารทอง. (2548). การประเมินภาวะอุบัติเหตุทางตาโดยใช้ Ocular Trauma Score

ในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. สงขลานครินทร์เวชสาร, 23(2), 99-109.

พิสมัย ศรีสุข. (2554). ลักษณะทางระบาดวิทยาผู้ป่วยอุบัติเหตุทางตาที่รับไว้รักษาในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลอุตรดิตถ์.

วารสารโรงพยาบาลอุตรดิตถ์, 26, 82-90.

ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์, & ภูวนาท รัตนนิเวศน์. (2554). อุบัติเหตุทางตาในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ.

วารสารจักษุธรรมศาสตร์, 6, 19-24.

ศุภานัน สุขมาก. (2558). ภาวะลูกตาแตกในโรงพยาบาลทุ่งสง. จักษุเวชสาร, 29, 28-32.

อมรรัตน์ วงศ์ณรัตน์. (2562). อุบัติการณ์การบาดเจ็บที่ตาชนิดลูกตาแตกในโรงพยาบาลกาฬสินธุ์. วารสารโรงพยาบาล

มหาสารคาม, 16, 168-175.

Keel, S., Xie, J., Foreman, J., Taylor, H. R., & Dirani, M. (2017). The prevalence of vision loss due to

ocular trauma in the Australian National Eye Health Survey. Injury, 48(11), 2466-2469.

https://doi.org/10.1016/j.injury.2017.09.020.

Kuhn, F., Morris, R., Witherspoon, C. D., & Mester, V. (2004). The Birmingham Eye Trauma Terminology

system (BETT). Journal Français d'Ophtalmologie, 27(2), 206-210. https://doi.org/10.1016/s0181-

(04)96122-0.

Négrel, A. D., & Thylefors, B. (1998). The global impact of eye injuries. Ophthalmic Epidemiology, 5(3),

-169. https://doi.org/10.1076/opep.5.3.143.8364.

Sintuwong, S., & Winitchai, R. (2011). Predictive factors of visual outcome in open globe injuries in

Thailand: A prospective study. Asian Biomedicine, 5(2), 289-294. https://doi.org/10.5372/1905-

0502.040.

Swain, T., & McGwin, G. Jr. (2020). The prevalence of eye injury in the United States: Estimates from a

meta-analysis. Ophthalmic Epidemiology, 27(3), 186-193.

https://doi.org/10.1080/09286586.2019.1704794.

Zhou, J., Wang, F. H., Lu, H., Liang, Y. B., Wang, N. L., & the Handan Eye Study Group. (2015). Ocular

trauma in a rural population of North China: The Handan Eye Study. Biomedical and

Environmental Sciences, 28(7), 495-501. https://doi.org/10.3967/bes2015.071.