ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

Main Article Content

กัญญ์วณัฏฐชนก เผ่าพันธ์, ศศ.บ.
กำพล เข็มทอง, ส.ด.
ฉัตรปวีณ์ เมษะพงศ์ศรี, วท.บ.

บทคัดย่อ

               การวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบสำรวจภาคตัดขวางมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อสมรรถนะของบุคลากรสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ   กลุ่มตัวอย่างเป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจงบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 797 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามบุคลากรสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มี 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ข้อมูลคุณลักษณะทั่วไป จำนวน 8 ข้อ ส่วนที่ 2 สมรรถนะหลักของบุคลากรสาธารณสุข จำนวน 95 ข้อ ได้แก่ การมุ่งผลสัมฤทธิ์บริการที่ดี การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ การยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม และการทำงานเป็นทีม และส่วนที่ 3 ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุข จำนวน 30 ข้อ ได้แก่ ความพึงพอใจต่อการบริหารทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา และ ความพึงพอใจตอคุณภาพชีวิต : ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทํางาน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน หาความสัมพันธ์ของปัจจัย ได้แก่ สถิติสหสัมพันธ์ correlation


                 ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 73.0 ชาย มีอายุระหว่าง 36-40 ปี ร้อยละ 17.7 มีสถานภาพสมรส ร้อยละ 58.0 มีระดับการศึกษา ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 70.5 มีระยะเวลาในการปฏิบัติงานระหว่าง 4-6 ปี ร้อยละ 16.2 เป็นระดับตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงาน ร้อยละ 69.3 การปฏิบัติงานในตำแหน่งอื่นๆ ร้อยละ 51.4 มีรายได้น้อยกว่า 5,000 บาท  ร้อยละ 22.1 มีสมรรถนะอยู่ในระดับสูง คะแนนเฉลี่ย 4.81 ส่วนใหญ่มีสมรรถนะระดับสูงร้อยละ 81.4 ระดับค่อนข้างสูง ร้อยละ 17.7 มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คะแนนเฉลี่ย 4.18 ร้อยละ 51.4 ความพึงพอใจรายด้าน พบว่า ด้านความพึงพอใจต่อคุณภาพชีวิต : ความสมดุลระหว่างชีวิตและ การทํางาน คะแนนเฉลี่ย 4.19 และด้านความพึงพอใจต่อการบริหารทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา คะแนนเฉลี่ย 4.16


                 ในการประเมินสมรรถนะบุคลากรสาธารณสุขนี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงหรือชี้เป้าไปที่กรอบอัตรากำลัง หรือตำแหน่งหรือกลุ่มวิชาชีพใด เพื่อให้การวิจัยนี้เป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสมรรถนะหลักของบุคลากรที่เป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจมากกว่าเป็นการประเมินบุคคลหาข้อบกพร่องและตำหนิการปฏิบัติงานของบุคลากร

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เผ่าพันธ์, ศศ.บ. ก., เข็มทอง, ส.ด. ก., & เมษะพงศ์ศรี, วท.บ. ฉ. (2025). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 4(1), p. 287–300. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/SJRH/article/view/4158
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา คงวารี. (2556). ความคาดหวังและการรับรู้ของประชาชนที่มีต่อคุณภาพบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเขต อําเภอคลองลาน จังหวัดกําแพงเพชร. นครปฐม, มหาวิทยาลัยมหิดล.

คณะกรรมการพัฒนาสมรรถนะบุคลากรสาธารณสุข สำนกงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์.(2549). เครื่องมือประเมินสมรรถนะบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ ป พ.ศ. 2549.

จิตติมา พะนา. (2550). การตัดสินใจเลือกใช้บริการโรงพยาบาลในโครงการประกันสังคม. สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการ : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.

จุฑามาศ นันทะเนตร และคณะ. (2560). การพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลบ้านสวน จังหวัดชลบุรี.วารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ, 8(4),164.

ชมนาด ม่วงแก้ว. (2555). ความคาดหวังและความพึงพอใจต่อคุณภาพการให้บริการงานกิจกรรม นักศึกษาและงานทะเบียนนักศึกษา. ปทุมธานี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

ชุติเดช ยะภักดี. การถ่ายโอนภารกิจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น: ความก้าวหน้าและปัญหาในการถ่ายโอนภารกิจ. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ 2565;2(3): 263-78. 14.

ทิพย์สุคนธ์ ศรีลาธรรม. (2559). คุณภาพบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล ในเขตอําเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี. ปทุมธานี, มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น.

บุญชม ศรีสะอาด.(2554). วิธีการทางสถิติส าหรับการวิจัย เล่ม 1.พิมพ์ครั้งที่4,กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด. (19 พฤศจิกายน 2564). ราชกิจจานุเบกษา 2564; เล่ม 138 ตอนพิเศษ 254 หน้า 14 15.2.

ศันสนีย์ วงม่วย และวิทัศน์ จันทร์โพธิ์ศรี. (2556). แรงจูงใจที่มีผลต่อสมรรถนะประจํากลุ่มงานของนักวิชาการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 6(3). กรกฎาคม-กันยายน.

สมธนึก โชติช่วงฉัตรชัย, กมลพัฒน์ มากแจ้ง, ศรวณีย์อวนศรี, วิมลรัตน์ ถนอมศรีเดชชัย, ธนินทร์ พัฒนศิริ, ศักดิธัช อิทธิพิสิฐ และคณะ.(2565). กลไกการประมวลสถานการณ์และการสนับสนุนงานวิชาการนโยบายและระบบสุขภาพ: กรณีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด. นนทบุรี:

สานิตย์ เพชรสุวรรณ. (2554). ปัจจัยทํานายสมรรถนะของนักวิชาการสาธารณสุขระดับตําบล. ปริญญาวิทยาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยทักษิณ. กรุงเทพ ฯ.

สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2550). การพัฒนาสมรรถนะหลัก (Core Competecies) สําหรับนักวิชาการสาธารณสุขแนวใหม่. แผนงานการพัฒนา

สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2553). คู่มือการกําหนดความรู้ ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะสําหรับตําแหน่ง. กรุงเทพ ฯ: บริษัทประชุมช่าง จํากัด.

สำนกงานเลขาธิการ.(2548). สำนกงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.). รายงานความกาวหน้าของการพัฒนาระบบราชการในรอบ 3 ป. กรงเทพมหานคร.

อำพล จินดาวัฒนะ.(2542). สถานการณกำลังคนโรงพยาบาลชุมชน. วารสารโรงพยาบาลชุมชน 2542; 1: 8-15.

World Health Organization. Monitoring the building blocks of health systems: a handbook of indicators and their measurement strategies.Geneva: WHO Document Production Services;2010.9.

Creswell JW, Creswell JD. Research design:qualitative, quantitative, and mixed methodsapproaches. 5th ed. Thousand Oaks, California:SAGE Publication; 2018.