พัฒนาโปรแกรมการฝึกทางกิจกรรมบำบัดด้านการหยิบจับ และความพร้อมด้านการเขียนในเด็กบกพร่องทางสติปัญญาสำหรับครู
คำสำคัญ:
การฝึกหยิบจับ , ความพร้อมด้านการเขียน , โปรแกรมกิจกรรมบำบัด , เด็กบกพร่องทางสติปัญญาบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาโปรแกรมสำหรับครูด้านการคัดกรองและการส่งเสริมพัฒนาการทางกิจกรรมบำบัดด้านการหยิบจับเบื้องต้น และความพร้อมด้านการเขียน แก่เด็กบกพร่องทางสติปัญญารายบุคคล
วัสดุและวิธีการ กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กบกพร่องทางสติปัญญาอายุระหว่าง 5 – 14 ปี ที่มารับบริการที่ศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษชุมชนคลองเตย ศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษชุมชนทุ่งสองห้อง ในมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ทั้งหมด 63 คน และครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษทั้งหมด 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ โปรแกรมสำหรับครูด้านการคัดกรอง การฝึกหยิบจับเบื้องต้นและความพร้อมด้านการเขียน ที่พัฒนาจากแบบประเมินมาตรฐาน PDM-2 และ Beery VMI 6 ผ่านการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาและทดสอบแล้วว่ามีค่าความเชื่อมั่นระดับสูง ครูผู้ดูแลได้รับการอบรมด้านการคัดกรอง การฝึกหยิบจับเบื้องต้นและความพร้อมด้านการเขียนตามโปรแกรม และนำความรู้ไปฝึกเด็กในชั้นเรียนแบบรายบุคคลอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ๆ ละ 30 – 45 นาทีขึ้นไป รวมเป็น 24 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน ผู้วิจัยทดสอบความสามารถในการหยิบจับและความพร้อมด้านการเขียนเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ Paired T- Test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
ผล หลังการอบรมครูผู้ดูแลมีความรู้เพิ่มขึ้นด้านการคัดกรองการฝึกหยิบจับเบื้องต้น และความพร้อมด้านการเขียน เด็กบกพร่องทางสติปัญญามีคะแนนด้านการฝึกหยิบจับ และความพร้อมด้านการเขียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังการฝึกตามโปรแกรม โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นทั้งทักษะการใช้มือ ทักษะการหยิบจับร่วมกับการมอง และทักษะพื้นฐานการเขียน
สรุป โปรแกรมการฝึกทางกิจกรรมบำบัดสามารถพัฒนาทักษะด้านการหยิบจับและความพร้อมด้านการเขียนในเด็กบกพร่องทางสติปัญญา ซึ่งครูผู้ดูแลควรมีความรู้ด้านการคัดกรอง การฝึกความสามารถด้านการหยิบจับเบื้องต้น และความพร้อมด้านการเขียนแบบรายบุคคล เพื่อช่วยส่งเสริมทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเด็กบกพร่องทางสติปัญญา ให้สามารถพัฒนาทักษะเมื่อเข้าสู่วัยเรียนได้ตามศักยภาพ
เอกสารอ้างอิง
American Occupational Therapy Association. Occupational Therapy practice framework: Domain & process. Am J Occup Ther 2002; 56:609 – 639.
นติยากร ชนเก่าน้อยและคณะ. การเปรียบเทียบ ทักษะการเคลื่อนไหวระหว่างเด็กออทิสติกและเด็กทั่วไป. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564; 29(3): 229-38.
Hartingsveldt Margo V, Cup Edith H C and Oostendorp Rob A. Reliability and validity of the fine motor scale of the peabody developmental motor scales–2. Occupational Therapy International, 2005; 12(1): 1-13.
Beery K E. and Beery N A. Beery VMI with supplemental developmental tests of visual perception and motor coordination 2010; 34 – 51.
ฐิติมา พัฒนโพธิกุล, ศุภโชค สิงหกันต์ และ สุชีรา ภัทรายุตวรรตน์. การรับรู้ทางตาสัมพันธ์กับการลงมือปฏิบัติในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2558; 60(3) : 169-180.
Kulp, Taylor M. Relationship between visual motor integration skill and academic performance in kindergarten through third grade. Optometry and Vision Science 1999; 76(3): 159-163.
Folio MR and Fewell RR. Peabody Developmental Motor Scales 2000; 20 – 32.
วิชิตา เกศะรักษ์. หลักการและแนวทางในการปฏิบัติงานกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา. 2554; 35-48.
Rens L, Joosten A. Investigating the experiences in a school baseed occupational therapy program to inform community based paediatric occupational therapy practice. Aust J Occup Ther 2014; 61(3) : 148-158.
Barnes KJ and Turner KD. Team collaborative practices between teachers and occupational therapist. Am J Occup Ther 2001; 55(1) : 83-89.
ผกาวรรณ สุทธิวงศ์. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทักษะพื้นฐานการเขียนในเด็กดาวน์ซินโดรม (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ; 2551.
Bruni M. Fine Motor Skills for Children with Down Syndrome. A Guide for Parents and Professionals. 1998 ; 63 – 95.
ศศิธร สังข์อู๋. Introduction to handwriting เอกสารประกอบการบรรยาย ภาควิชากิจกรรมบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ Handwriting in children with special need; 24- 25 กรกฎาคม 2560;ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. กรุงเทพฯ 2560.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ผกาวรรณ สุทธิวงศ์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า ต้นฉบับที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ลงในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่วารสารราชานุกูล กรณีมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในผลงาน ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) แต่เพียงฝ่ายเดียว และหากข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ประสงค์ถอนบทความในระหว่างกระบวนการพิจารณาของทางวารสาร ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาบทความนั้น