The relationship between perceived health belief patterns in COVID-19 prevention with incentives to continue receiving COVID-19 vaccination services in Lin Fah sub-district, Yang Chum Noi District, Sisaket Province

Main Article Content

Nathapon Datesaibua

Abstract

This study is a survey research using a quantitative research method and collected by a cross-sectional study. The objective of this study was to examine the relationship between perceived health belief patterns in COVID-19 prevention and incentives to continue receiving COVID-19 vaccination services in the Lin Fah sub-district, Yang Chum Noi District, Sisaket Province. Data were collected using the questionnaire with a sample of 201 elderly. The sample was obtained through random stratified sampling, wherein the total number of elderly people was divided by village and participants were selected through simple random sampling (non-returned lottery method). Data were analyzed using frequency, percentages (minimum and maximum), mean() standard deviation (S.D.), and Pearson, Product-Moment Correlation Coefficient.


The study found that most of the sample were female 55.2%, the average age was 69 years, the lowest age was 60 years, the highest was 90 years old, most were in the range of 60-67 years 46.3%, marital status 68.2%, graduated from elementary school 93.5%, agricultural occupation 79.5%, the lowest income is 600 baht, the highest is 5,000 baht, most of them are in the range of 0-1,000 baht 79.6%, the samples have the right to maintain a universal health insurance card 96.0%, the sample group has a chronic disease 7 disease groups 58.7%, most of them were sick with cardiovascular disease 57.6 %. Most samples (63.2%) had three doses of the COVID-19 vaccination. Most reasons for using the service (52.2%) were for voluntary self-vaccination.


Most of the samples, 54.2%, had average health beliefs of 2.24. Most of the samples had
a perception of the advantages of prevention, based on the analysis of the mean and level of perception
of health beliefs classified by side. The perception of COVID-19's harshness came in second with an average
of 2.31, while COVID-19 itself ranked highest. COVID-19 awareness of risks and perceived obstructions
to prevention have mean values of 2.26, 2.21, and 2.21, respectively. 72.6 percent at a consistent moderate level, with a motivation level of 2.20 on average.


A correlation analysis revealed that perceived exposure to COVID-19 was significantly related
to motivation for receiving COVID-19 vaccination services, with a statistical significance level of 0.05
 (r = 0.310, p-value < 0.001). Additionally, the perceived severity of COVID-19 disease exhibited a statistically significant correlation with motivation for attending COVID-19 vaccination services at a significance level of 0.05 (r = 0.194, p-value = 0.006). Similarly, perceived barriers to practicing COVID-19 prevention showed
a statistically significant correlation with motivation for accessing COVID-19 vaccination services at a significance level of 0.05 (r = -0.141, p-value = 0.046).Furthermore, the overall health beliefs were found to be related to motivation for receiving COVID-19 vaccination services, demonstrating statistical significance at 0.05 (r = 0.206, p-value = 0.003). Notably, perceived benefits of COVID-19 prevention did not exhibit a correlation with motivation for receiving COVID-19 vaccination services.

Article Details

How to Cite
Datesaibua, N. (2023). The relationship between perceived health belief patterns in COVID-19 prevention with incentives to continue receiving COVID-19 vaccination services in Lin Fah sub-district, Yang Chum Noi District, Sisaket Province. Sisaket Journal of Research and Health development, 2(พิเศษ), p. 87–101. retrieved from https://he03.tci-thaijo.org/index.php/SJRH/article/view/1651
Section
บทความวิจัย

References

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม. (2542) กรมประชาสงเคราะห์. ปฏิญญาผู้สูงอายุไทย.กรุงเทพมหานคร : กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม.

กระทรวงสาธารณสุข. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (2552).รายงานสถานการณ์สภาวะสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพผู้สูงอายุไทย : สถานการณ์สุขภาพไทย ธันวาคม ปีที่ 4 ฉบับที่ 1.

กระทรวงสาธารณสุข, กรมสุขภาพจิต.(2558) แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต. นนทบุรี: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2561). กลยุทธ์การเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ. กรุงเทพฯ: บริษัทสามเจริญพาณิชย์ (กรุงเทพ) จำกัด:วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 14(3), 104-114.

กัมปนาท โคตรพันธ์และ นิยม จันทร์นวล. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร. การประชุมวิชาการระดับชาติ มอบ. วิจัยครั้งที่ 16 (148 -160).

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). วัคซีนป้องกันโรคโควิค-19 (COVID-19) ของประเทศไทย, สืบค้นจากhttps://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19.

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.(2564).แนวทางปฏิบัติเพื่อการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(COVID-19).สำหรับประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง.นนทบุรี: กรมควบคุมโรค.สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2565). รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019.

คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ .(2555) รายงานประจำปีสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2555. นนทบุรี :บริษัท เอสเอสพลัส มีเดีย จำกัด.

คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ.(2560) รายงานประจำปีสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560. นนทบุรี :บริษัท เอสเอสพลัส มีเดีย จำกัด.

จงกลณี ตุ้ยเจริญ และคณะ. (2563). การรับมือไวรัสโคโรนา COVID-19 ในงานสาธารณสุขมูลฐาน.

ชุดา จิตพิทักษ์. (2555) พฤติกรรมศาสตร์เบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สารมวลชน.

ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์, นรีมาลย์นีละไพจิตร และณัฐนารี เอมยงค์. (2564). รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) เรื่องโครงการสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องโรคการปฏิบัติตัวและการได้รับวัคซีน โควิด -19 ของประชาชนกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ และผู้พิการทางการเห็น. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.

ณัฎฐวรรณ คำแสน. (2564). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของประชาชนในเขตอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า, 4(1), 33-48.

ดวงใจ รัตนธัญญา.(2555) สุขศึกษา: หลักและกระบวนการเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ.กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ไทยรายวัน.

นันทา ขุนภักดี. (2530) การวิเคราะห์ความเชื่อของชายไทยในสวัสดิรักษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศิลปากร.

นภชา สิงห์วีรธรรม.(2564) ศึกษาความเต็มใจยอมรับและความเต็มใจที่จะจ่ายเงินการได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์.ปีที่ 15 ฉบับที่ 2: พฤษภาคม-สิงหาคม.

ประภาเพ็ญ สุวรรณ, สวิง สุวรรณ. (2536). พฤติกรรมศาสตร์ พฤติกรรมสุขภาพและสุขศึกษา.พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : เจ้าพระยาการพิมพ์.15 โรงพยาบาลพระราม 9.

ประภาเพ็ญ สุวรรณ. (2556 )ทัศนคติ :การวัดการเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมอนามัย, พิมพ์ครั้งที่.2 กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.

ปิยอร วจนะทินภัทร.(2565) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาของบุคลากรและนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9 ปีที่ 15 ฉบับที่ 37. พฤษภาคม - สิงหาคม.(282 - 291).

พรทิวา มีสุวรรณ. (2551) การรับรู้ความรุนแรงของการเจ็บป่วยความต้องการข้อมูลและความวิตกกังวลของผู้ป่วยก่อนได้รับการผ่าตัดหูคอจมูกในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ : วารสารสงขลานครินทร์เวชสาร. มี.ค.-เม.ย.; 26 [2] : 185-193.

พงษ์ศักดิ์ สังขภิญโญ. (2543)วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปีที่ 3, ฉบับที่ 4 2543, 1513-0096

ภัคณัฐ วีรขจร,โชคชัย ขวัญพิชิต, กิตติพร เนาว์สุวรรณ์, นภชา สิงห์วีรธรรม. (2563) การรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกำลังพลที่ปฏิบัติงานสายแพทย์ ศูนย์อำนวยการแพทย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ : วารสารสาธารณสุข และวิทยาศาสตร์สุขภาพ. ปีที่ 3 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม.

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. (2564). รายงานการได้รับวัคซีคป้องกันโรคโควิค-19 ของนักศึกษา. ปทุมธานี.

โยธิน ศันสนยุทธ และคณะ. (2553). จิตวิทยา. กรุงเทพฯ: ศูนย์

ส่งเสริมวิชาการ.ราชบัณฑิตยสถาน. (2546) พจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์.

วสันต์ ศิลปสุวรรณ และพิมพ์พรรณ ศิลปสุวรรณ. (2555). การวางแผนและประเมินผลโครงการส่งเสริมสุขภาพ: ทฤษฎีและการปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : เจริญดีการพิมพ์.

สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล.(2542) หลักสำคัญของเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สมภพ เรืองตระกูล.(2547) ตำราจิตเวชผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เรืองแก้วการพิมพ์.

สมทรง รักษ์เผ่าและสรงค์กฎณ์ ดวงคำสวัสดิ์.(2540) กระบวนการดำเนินงานสุขศึกษาเพื่อพัฒนา. พฤติกรรมสุขภาพกรณี: การพัฒนาพฤติกรรมผู้บริโภคในชุมชน.นนทบุรี : โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชนก กระทรวงสาธารณสุข. สันทนาการ.

อัจฉรา จินดาวัฒนวงศ์. (2553) ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย.มหาวิทยาลัยมหิดล:ม.ป.ท.

อาภาพร เผ่าวัฒนา, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ละกาปั่น, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ. (2554) การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน:การประยุกต์แนวคิดทฤษฎีและการปฏิบัติ.(พิมพ์ครั้งที่2).กรุงเทพมหานครฯ: หจก.โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.

อุมาพร ปุญญโสพรรณ. (2554)การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคและพฤติกรรมการป้องกัน โรคความดันโลหิตสูงของสตรีวัยทองในตำบลท่าฉาง อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี : วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์

อณัญญา ยศนันท์.(2563) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. วารสาร ปีที่ 4 ฉบับที่ 11กันยายน-ธันวาคม (198-205).

Daniel, W.W. Biostatics: Basic concept and Metthodology for the Health Sciences (9thed). New York: John Wiley & Sons; 2010.

Firew, A. &Belachew, U. (2022). COVID-19 vaccines: awareness, attitude and acceptance among undergraduate University students.Journal of Pharmaceutical Policy and Practice, 15(32),1-7. hhttp://www.hiso.or.th/hiso/visualize/Index.php?links=v320&show=2&no=8&menu=1

Rovinelli, R. J., & Hambleton, R. K. (1977). On the Use of Content Specialists in the Assessment of Criterion-Referenced Test Item Validity.TijdschriftVoorOnderwijs Research.2, 49-60

Suphanchaimat. R, et al. (2021).Predicted Impact of Vaccination and Active Case Finding Measures to Control Epidemic of Coronavirus Disease 2019 in a Migrant-Populated Area in Thailand. Risk ManagHealthc Policy, 3(14), 3197-3207.