รูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคถุงลมโป่งพองในโรงพยาบาลปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) ที่ประยุกต์ใช้วงจร PAOR (Plan-Act-Observe-Reflect) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนากิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพให้กับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง 2) พัฒนารูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง 3) ประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองหลังการใช้รูปแบบกิจกรรม และ 4) เปรียบเทียบสุขภาพกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองก่อนและหลังการใช้รูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพในโรงพยาบาลปะคำ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 10 คน 2) ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองสำหรับศึกษาความต้องการจำเป็น จำนวน 103 คน และ 3) ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองสำหรับทดลองใช้รูปแบบกิจกรรม จำนวน 34 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามความต้องการจำเป็น แบบประเมินรูปแบบกิจกรรม และแบบประเมินสถานการณ์สุขภาพ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 คน มีค่า IOC ระหว่าง 0.66–1.00 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.826 และ 0.802 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา (ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ค่าดัชนี PNI modified และสถิติเชิงอนุมาน (Paired t-test) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการศึกษาพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นในการพัฒนากิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพ 3 อันดับแรก ได้แก่ การจัดกิจกรรมสันทนาการเพื่อคลายความเครียด(PNI = 0.634) การมอบรางวัลให้กับผู้ป่วยที่ดูแลสุขภาพดี(PNI = 0.563) และการบริหารกล้ามเนื้อแขนและขา(PNI = 0.517) ตามลำดับ 2) รูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพ "ปะคำ-แคร์ โมเดล" (Pakham CARE Model) ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 4 รูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมโภชนาการเพื่อระบบทางเดินหายใจ( = 4.27, S.D. = 0.55) กิจกรรมส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย( = 4.23, S.D. = 0.51) กิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะทางจิตวิญญาณและจิตใจ( = 4.19, S.D. = 0.53) และกิจกรรมสร้างแรงจูงใจและความสัมพันธ์ทางสังคม( = 4.18, S.D. = 0.46) โดยทั้ง 4 รูปแบบได้รับการประเมินในระดับมากทั้งหมด 3) สถานการณ์ด้านสุขภาพกายและจิตใจของผู้ป่วยหลังการใช้รูปแบบกิจกรรมโดยรวมอยู่ในระดับมาก( = 3.77, S.D. = 0.66) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า สุขภาพจิตใจมีค่าเฉลี่ยสูงสุด( = 3.80, S.D. = 0.42) รองลงมาคือสุขภาพกาย( = 3.75, S.D. = 0.90) และ 4) ผู้ป่วยมีคะแนนสุขภาพกายและจิตใจหลังการใช้รูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยสุขภาพจิตใจมีการพัฒนาสูงกว่าสุขภาพกาย สรุปได้ว่า รูปแบบกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพที่พัฒนาขึ้นเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิผลและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาลชุมชนหรือพื้นที่ชนบทที่มีทรัพยากรจำกัดได้ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและการดูแลแบบองค์รวม
Article Details
เนื้อหาและข้อมูล (เขียนข้อกำหนด)
เอกสารอ้างอิง
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์. (2564). วันถุงลมโป่งพองโลก. [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์. [เข้าถึงเมื่อ 8 กรกฎาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก www.chulabhornhospital.com
วิชัย บุญสร้างสุข. (2563). โรคถุงลมโป่งพอง. [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลพญาไท. [เข้าถึงเมื่อ 9 กรกฎาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://www.phyathai.com/th/article/
สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. (2565). แนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ. 2565. กรุงเทพฯ: สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์.
สิริรัตน์ นฤมิตร. (2564). การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพองของโรงพยาบาลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์. Journal of Health and Environmental Education, 6(3), 83–89.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิศร มนูสาร. (2567). โรคถุงลมโป่งพอง ภัยร้ายใกล้ตัว. [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลพริ้นสุวรรณภูมิ. [เข้าถึงเมื่อ 8 กรกฎาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://www.princsuvarnabhumi.com/articles/content-emphysema-close-disease
อรรถเดช สรสุชาติ และรณิดา มนต์ขลัง. (2567). สถิติสำหรับการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Baraniak, A., & Sheffield, D. (2011). The efficacy of psychologically based interventions to improve anxiety, depression and quality of life in COPD: A systematic review and meta-analysis. Patient Education and Counseling, 83(1), 29–36.
Bennett, M. P., & Lengacher, C. A. (2009). Humor and laughter may influence health IV: Humor and immune function. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine, 6(2), 159–164.
Benzo, R. P., Kirsch, J. L., Dulohery, M. M., & Abascal-Bolado, B. (2016). Emotional intelligence: A novel outcome associated with wellbeing and self-management in chronic obstructive pulmonary disease. Annals of the American Thoracic Society, 13(1), 10–16.
Chan, A. W., et al. (2012). Effect of music therapy on depression in older patients with chronic disease: A randomized clinical trial. JAMA Internal Medicine, 172(9), 777–783.
Cruz, J., Brooks, D., & Marques, A. (2014). Home telemonitoring in COPD: A systematic review of methodologies and patients' adherence. International Journal of Medical Informatics, 83(4), 249–263.
Eisner, M. D., Blanc, P. D., Yelin, E. H., et al. (2010). Influence of anxiety on health outcomes in COPD. Thorax, 65(3), 229–234.
Halpin, D. M. G., et al. (2021). Impact of maintenance therapy on COPD exacerbations and related outcomes, and quality of life: A review of the current evidence. Respiratory Research, 22(1), 21–30.
Keating, A., Lee, A., & Holland, A. E. (2011). What prevents people with chronic obstructive pulmonary disease from attending pulmonary rehabilitation? A systematic review. Chronic Respiratory Disease, 8(2), 89–99.
Kemmis, S., & McTaggart, R. (2005). Participatory action research: Communicative action and the public sphere. In N. K. Denzin & Y. S. Lincoln (Eds.), The SAGE handbook of qualitative research (3rd ed., pp. 559–603). Thousand Oaks, CA: SAGE Publications.
Livermore, N., Sharpe, L., & McKenzie, D. (2010). Prevention of panic attacks and panic disorder in COPD. European Respiratory Journal, 35(3), 557–563.
McCarthy, B., Casey, D., Devane, D., Murphy, K., Murphy, E., & Lacasse, Y. (2015). Pulmonary rehabilitation for chronic obstructive pulmonary disease. Cochrane Database of Systematic Reviews, 2015(2), CD003793.
Puchalski, C. M., Vitillo, R., Hull, S. K., & Reller, N. (2014). Improving the spiritual dimension of whole person care: Reaching national and international consensus. Journal of Palliative Medicine, 17(6), 642–656.
Spruit, M. A., Singh, S. J., Garvey, C., et al. (2013). An official American Thoracic Society/European Respiratory Society statement: Key concepts and advances in pulmonary rehabilitation. American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine, 188(8), e13–e64.
Yohannes, A. M., & Alexopoulos, G. S. (2014). Depression and anxiety in patients with COPD. European Respiratory Review, 23(133), 345–349.
Yohannes, A. M., et al. (2017). Depression and anxiety in elderly patients with chronic obstructive pulmonary disease: The role of pulmonary rehabilitation and general health status. Age and Ageing, 46(3), 393–399.