พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรคที่มีประวัติการกินยาวัณโรคไม่สม่ำเสมอ Self-care

ผู้แต่ง

  • สุจิตรา บุญยัง ตึกอายุรกรรม 4 สถาบันบำราศนราดูร
  • วรุณยุพา สกล ตึกอายุรกรรม 4 สถาบันบำราศนราดูร
  • ฐิติวัฒน์ ปรึกษาตน ตึกอายุรกรรม 4 สถาบันบำราศนราดูร

คำสำคัญ:

พฤติกรรม,, ผู้ป่วยวัณโรค,, ยาวัณโรค

บทคัดย่อ

ภูมิหลัง: การควบคุมวัณโรค (TB) ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น พฤติกรรมของผู้ป่วยถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาและการป้องกันจะช่วยลดความต้านทานต่อยาและการแพร่เชื้อ อัตราการฟื้นตัวและผลลัพธ์ด้านสาธารณสุขจะดีขึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษา

วัตถุประสงค์: การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรค และหาแนวทางในการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยวัณโรครวมถึงเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรคที่รับการรักษาในหอผู้ป่วยอายุรกรรม สถาบันบำราศนราดูร

ระเบียบวิธีการวิจัย: ดำเนินการศึกษาระหว่างวันที่10 พฤศจิกายน 2561- 30มิถุนายน 2563 กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยวัณโรคที่มีประวัติกินยาวัณโรคไม่สม่ำเสมอจำนวน 19 คน โดยการสัมภาษณ์และตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ความเชื่อ ความรู้เรื่องโรควัณโรค และสาเหตุของการรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ

ผลการวิจัย: ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีจำนวน 10คน(52.6%) มีอายุเฉลี่ย 42.58 ปี(SD=13.504 )อายุน้อยที่สุด21ปีอายุมากที่สุด76ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด จำนวน 11 คน( 57.9%)

การศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 5 คน(26.3 %) มีอาชีพรับจ้าง จำนวน 13 คน( 68.4 %) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเชื่อด้านสุขภาพที่ถูกต้อง จำนวน 15 ราย(79.0%) มีความรู้เรื่องโรควัณโรคที่ถูกต้อง จำนวน 10 รายคิด(52.63%) ปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยรับประทานยาไม่สม่ำเสมอคือด้านตัวผู้ป่วยเอง ลักษณะงานของผู้ป่วย ด้านเศรษฐานะและ ด้านจิตใจ

สรุปผล: ปัจจัยของผู้ป่วยที่มีผลต่อการรักษาวัณโรคให้ต่อเนื่อง มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองเรื่องการรับประทานยา บุคลากรทางการแพทย์จะต้องหาแนวทางเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย

References

สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์วัณโรคของประเทศไทย กรุงเทพฯ: กองวัณโรค, 2559.

คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ สถาบันบำราศนราดูร.ตัวชี้วัดผลการรักษาผู้ป่วยวัณโรค 2560.สถาบันบำราศนราดูร.2561.

เพชรรัตน์ บุญนาค. ปัจจัยด้านจิตสังคมในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ที่ศูนย์บริการปฐมภูมิ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (คูคต).Thammasat Medicincal Journal, vol17 No.3 July-September 20117:303-314.

คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ สถาบันบำราศนราดูร.ตัวชี้วัดผลการรักษาผู้ป่วยวัณโรค 2560.สถาบันบำราศนราดูร.2561.

หทัยกาญจน์ ก๋ำนารายณ์(2560).แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อการใช้ยารักษาวัณโรคของแรงงานชาวพม่า อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร.วิทยานิพนธ์เภสัชศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเภสัชกรรม ชุมชน,2560 มหาวิทยาลัยนเรศวร.

เนตรชนก จุละวรรณโณ (2559)ผลการให้ความรู้รายบุคคลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรค.วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้.ปีที่ 3 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2559

สมัญญา มุขอาษา.(2558).การศึกษาผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพโดยการประยุกต์ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะบวกรายใหม่.วิทยานิพนธ์สาธารณสุขมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ คระสาธารณสุขสาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

นลินี บัวชาวเกาะ. (2556) รูปแบบการจัดกระบวนการกลุ่มร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการดูแลตนเอผู้ป่วยวัณโรคปอดของคลินิกวัณโรค โรงพยาบาลทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี/เพชรบุรี

ณฐกร จันทนะ วันทนา มณีศรีวงศ์กูลและพรรณวดี พุธวัฒนะ.(2019). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยารักษาวัณโรค ดื้อยาหลายขนาน.Rama Nurs J • September-December 2019.296-309

Downloads

เผยแพร่แล้ว

30-04-2022

How to Cite

บุญยัง ส. ., สกล ว. ., & ปรึกษาตน ฐ. . (2022). พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยวัณโรคที่มีประวัติการกินยาวัณโรคไม่สม่ำเสมอ Self-care . วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต, 2(1), 57–66. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/VCHPK/article/view/4005