การถ่ายทอดเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

ผู้แต่ง

  • อนงค์ ภิบาล มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
  • ศศินาภรณ์ โลหิตไทย มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง
  • เรืองสิทธิ์ เนตรนวลใย มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

คำสำคัญ:

การถ่ายทอดเทคโนโลยี,, การส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิม,, สามจังหวัดชายแดนใต้,, ความเข้มแข็งของชุมชน

บทคัดย่อ

          การถ่ายทอดเทคโนโลยีมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการจัดการความรู้จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในชุมชน และนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3,4 ที่ฝึกปฏิบัติงานในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ 1 และ 2 สามารถนำผลการวิจัยเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อให้การพยาบาลตรงตามวิถีวัฒนธรรม และหลักความเชื่อของศาสนา กลุ่มตัวอย่างคือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในจังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี จำนวน 50คน อสม. ในเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี จำนวน 50 คน อาจารย์พยาบาลสาขาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ และนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และ 4 จำนวน 200 คน หญิงตั้งครรภ์มุสลิม จำนวน 100 คนเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2561 –ช่วงเดือนมิถุนายน 2562

          ผลการถ่ายทอดเทคโนโลยีพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา จำนวน 400 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 70 มีอายุเฉลี่ยมากที่สุดในช่วง31-40 ปี (ร้อยละ 50) ระดับการศึกษา ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยม(ร้อยละ 60.84) ส่วนความพึงพอใจนวัตกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจด้านรูปแบบและประโยชน์ของคู่มือเมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับมากได้แก่ รูปแบบ และสีของตัวอักษรเหมาะสมอยู่ในระดับมาก สวยงามมีความชัดเจนของภาพหรือตัวอักษรอยู่ในระดับมากมีความทันสมัย มีความคิดสร้างสรรค์และเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ขนาดตัวอักษรบรรยายประกอบเนื้อหาน่าสนใจอยู่ในระดับมาก ภาพประกอบมีเทคนิคทางศิลปะและสื่อความหมายได้ดีอยู่ในระดับมาก การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างต่อเนื่องอยู่ในระดับมาก ระยะเวลามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก การใช้ภาษาถูกต้องอยู่ในระดับมากความสะดวกสบายในการใช้อยู่ในระดับมาก มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานอยู่ในระดับมาก

          ผลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่ม ได้ประเด็นในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนที่ได้จาการทำวิจัยและได้กิจกรรมเพิ่มเติมในหลักสูตรจากการถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่มีกิจกรรมที่สอดคล้องบริบทประเพณีวัฒนธรรมและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมทั้งมีการติดตามประเมินผล ความรู้และทักษะ จาการสังเกต การใช้แบบทดสอบ และการสาธิตย้อนกลับ การประเมินจากการสะท้อนคิดของผู้เข้ารับการอบรม

 ข้อเสนอแนะครั้งต่อไป คือ 1.เพิ่มกิจกรรมที่หลากหลาย และ เพิ่มระยะเวลาในภาคปฏิบัติที่ร่วมทำกิจกรรมกับทุกภาคส่วน 2. ให้ปราชญ์ชาวบ้านมาเป็นวิทยากรร่วม 3. สถานที่ในการจัดกิจกรรม ควรมีสิ่ง อุปกรณ์ประกอบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

References

กัญจนี พลอินทร์.(2542). การพยาบาลผู้รับบริการทางสูติศาสตร์หัตถการในระยะคลอด.สงขลา: คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ขนิษฐาอารยภิญโญและนิทราคชรักษ์. (2540). กระบวนการคลอด. ในอุกฤษฎ์มิลันทางกูร (บรรณาธิการ), การพยาบาลสูติศาสตร์.(พิมพ์ครั้งที่ 3,หน้า 214-248). กรุงเทพมหานคร” บริษัทยุทธรินทร์การพิมพ์จำกัด.

คณะกรรมการอิสลาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. มุสลิมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (ออนไลน์). เข้าถึงได้ จากhttp://www.muslimyudya.com/data-5280/.(วันที่สืบค้นข้อมูล: 4 สิงหาคม 2554).

จินตนา หาญวัฒนกุล.(2548). การใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านเพื่อสร้างเสริมสุขภาพในระยะตั้งครรภ์: กรณีศึกษาสตรีไทยมุสลิมในภาคใต้.(ออนไลน์). เข้าถึงได้จากhttp://soreda.oas.psu.ac.th/show_detail.php?research_id=333 (วันที่สืบค้นข้อมูล: 30 กรกฎาคม 2554).

ฐิติพรอิงคถาวรวงศ์.(2540). อันตรายในระยะคลอด:การประเมินและการพยาบาล.สงขลา: มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์.

ดารณี อ่อนชมจันทร์. (2545). ผดุงครรภ์โบราณกับการดูแลแม่และเด็ก ชาวไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้., จาก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จากhttp://www.dtam.moph.go.th/indigenousthai/downloads/mch_system.doc (วันที่สืบค้นข้อมูล 31 กรกฎาคม 2554).

ทัศนา บุญทอง.(2534).มโนมติของจิตวิญญาณการพยาบาล. ใน อรพินท์ วีระฉัตร (บรรณาธิการ), การพยาบาลในมิติจิตวิญญาณ (หน้า 21-29). กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์.

นราธิวาส.(2554). เทศกาล ประเพณีสำคัญและการละเล่นพื้นเมืองของจังหวัดนราธิวาส. (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก:http://www.pocnara.go.th/ narathiwat/provnara/nara/nara8.1.htm.(วันที่สืบค้นข้อมูล:4 สิงหาคม 2554).

บุปผาชอบใช้.(2536). ความต้องการด้านจิตวิญญาณของผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะที่ 3-4.วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.

ประมูลอุทัยพันธ์. (2532). ฝากไว้ที่ปัตตานี.กรุงเทพมหานคร:สำนักพิมพ์มิตรสยาม.ผอบโปษะกฤษณะ. (2542). สมุนไพรในครัว.กรุงเทพมหานคร:จักรานุกูลการพิมพ์.

พรทิพย์อารีย์กุล.(2539). คู่มือสูติศาสตร์การพยาบาลมารดาระยะคลอดหลังคลอดและทารกแรก เกิด. สงขลา:คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

พันณีขันติการโร.(2542).ประสบการณ์การดูแลตนเองของหญิงมีครรภ์มุสลิมที่ไม่ฝากครรภ์. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาการพยาบาลอนามัยชุมชน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สงขลา.

พิริยาศุภศรี.(2540). การพยาบาลในระยะคลอด:การพยาบาลผู้รับบริการในระยะคลอดตามกระบวนการพยาบาลที่ใช้แบบแผนสุขภาพเก็บข้อมูล.(พิมพ์ครั้งที่ 2).กรุงเทพมหานคร: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

วงรัตน์ใสสุข.(2544). ความต้องการทางด้านจิตวิญญาณและการปฏิบัติเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านจิตวิญญาณของญาติผู้ป่วยวิกฤต.วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตสาขาการพยาบาลผู้ใหญ่บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.

วรลักษณ์สมบูรณ์พร.(2542). การเจ็บครรภ์และการคลอดปกติ. ในกนกสีจร, ถวัลย์วงค์รัตน- สิริ, วิทูรย์ประเสริฐเจริญสุขและโกวิทย์คำพิทักษ์ (บรรณาธิการ). สูติศาสตร์.(พิมพ์ครั้งที่ 2, หน้า 63-115).ขอนแก่น:ห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.บี. ฟอเรนบุ๊คส์เซ็น-เตอร์.

ศรีสมรเบ็ญอาหลี.(2538). การพัฒนาคุณภาพชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามกลยุทธ์ “ศาสนานำการสาธารณสุข” ยะลา: ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต 12.

สุรเทพอภัยจิตร. (2541). ศิลปะการนวด:แก้ปวดเมื่อยแก้ขัดยอกสำหรับผู้นวดและผู้รับนวด.กรุงเทพมหานคร:บริษัทพิมพ์ดีจำกัด.

อนงค์ ภิบาลและคณะ.(2554). ประสบการณ์ในการดูแลมารดาทารกในวิถีมุสลิมใน สามจังหวัด ชายแดนใต้.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์.

อารีรัตน์สิริวณิชชัย.(2542). ประสบการณ์การดูแลตนเองหลังคลอดของหญิงมุสลิมที่คลอดกับผดุงครรภ์โบราณ. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาการพยาบาลอนามัยชุมชนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,สงขลา.

อิสมาแออาลีและคณะ.(2535). ครอบครัวมุสลิม.ปัตตานี:วิทยาลัยอิสลามศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี.

อุไร หัถกิจ และอนงค์ ภิบาล.(2552). ความต้องการการดูแลทางด้านจิตวิญญาณและการได้รับการพยาบาลที่ตอบสนองความต้องการทางด้านจิตวิญญาณของผู้ป่วยไทยมุสลิมระยะสุดท้ายขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล. เข้าได้จากhttp://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2010/5975/1/322159.pdf.(วันที่สืบค้นข้อมูล: 4 สิงหาคม 2554).

Highfield, M. F., & Cason. V. B. (1983) Spiritual needs of patients: Are they recognized. Cancer Nursing, 5(7), 187-192.

Mckiney, E.S.,et al.(2000). Maternity. St. Louis:Mosby-Year Book, Inc.

Sherwen, L.N.,Scoloveno,M.A.,&Weingarten,C.T.(1995).Nursing care of the childbearing family. (2nded.). Norwalk:Appleton&Lande.http://www.panyathai.or.th. (วันที่สืบค้นข้อมูล: 30 กรกฎคม 2554).

Downloads

เผยแพร่แล้ว

30-09-2021

How to Cite

ภิบาล . อ. ., โลหิตไทย . ศ. ., & เนตรนวลใย . เ. . (2021). การถ่ายทอดเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพมารดาทารกในวิถีมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนใต้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วชิระภูเก็ต, 1(2), 39–50. สืบค้น จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/VCHPK/article/view/3930